กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – กลุ่ม ปตท.ร่วมรีดไขมันเพิ่มอีกร้อยละ 20-30 รับผลกระทบ Trade War ส่วนโครงการโรงแรมในปั๊มยังเดินหน้าต่อ
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากความผันผวนของราคาน้ำมันและผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งกระทบมายังราคาปิโตรเคมีและมาร์จิ้นของธุรกิจขั้นปลายกลุ่ม ปตท. ดังนั้น นโยบายที่ให้บริษัทในเครือต้องร่วมมือกันอย่างเข้มข้นมากกว่าเดิมร้อยละ 20-30 คือ การเพิ่มประสิทธิภาพ การลดต้นทุนร่วมกัน ตามแผนงานปฏิบัติการที่เป็นเลิศ (Operational Excellence: OpEx) ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพและทำให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืน เช่น การขนส่งน้ำมันดิบร่วมกัน การใช้วัตถุดิบภายในกลุ่ม เพื่่อสร้างมูลค่าเพิ่มสูงสุด การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เป้าหมาย คือ ให้บริษัทในเครือเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกในระดับ Top quartile performance โดยปีที่แล้วการร่วมดำเนินการทำให้มีมูลค่าส่วนนี้กว่า 10,000 ล้านบาท
“ที่ผ่านมากลุ่ม ปตท. เช่น PTTGC, IRPC, TOP, PTTEP, GPSC, PTT, GGC, PTTOR ได้ร่วมกันสร้างมูลค่าเพิ่ม ร่วมสร้างประสิทธิภาพนับหมื่นล้านบาทต่อปี นับว่ารีดไขมันอย่างต่อเนื่องร่วมกันมาหลายปี ปีนี้ก็ต้องทำเพิ่มหนักขึ้นรองรับเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและราคาผลิตภัณฑ์ผันผวน” นายอรรถพล กล่าว
สำหรับการลงทุนของกลุ่มปิโตรเคมีขั้นปลายยังเดินหน้าตามแผนงาน ขณะเดียวกันกำลังพิจารณาการใช้วัตถุดิบที่จะเกิดขึ้นมาร่วมกันลงทุนให้เกิดมูลค่าเพิ่มสูงสุดอย่างไร เช่น การนำผลิตภัณฑ์จากโครงการขยายกำลังกลั่นของไทยออยล์ไปผลิตปิโตรเคมี เป็นต้น
นายอรรถพล ยังกล่าวถึงโครงการลงทุนธุรกิจโรงแรมราคาประหยัดในสถานีบริการน้ำมัน PTTOR ว่า ยังไม่ล้มเลิกโครงการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบธุรกิจให้ละเอียดและรอบคอบ เนื่องจากเป็นธุรกิจใหม่ที่ ปตท.ยังเคยลงทุนมาก่อน โดยคาดว่าจะประกาศรายชื่อพันธมิตรทางธุรกิจในโครงการดังกล่าวได้เร็ว ๆ นี้ โดย ปตท.กำลังศึกษารูปแบบธุรกิจโรงแรมอย่างละเอียดทั้งด้านการตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาบริหารจัดการธุรกิจโรงแรมในสถานีน้ำมัน ปตท. การซื้อแฟรนไชส์ธุรกิจโรงแรม เพราะผู้ประกอบการโรงแรมมีความชำนาญในธุรกิจอยู่แล้ว หรือจะร่วมทุนกับผู้ประกอบการ เป็นต้น โดยโครงการนี้้ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของธุรกิจสถานีบริการน้ำมันด้วย เพื่อให้เป็นสถานีบริการน้ำมันที่ครบวงจรเป็น living community เพื่อตอบสนองและให้บริการสำหรับผู้บริโภครอบข้างสถานีบริการน้ำมัน รวมถึงผู้เดินทางให้มีที่พักระหว่างทางที่ปลอดภัยและประหยัด.- สำนักข่าวไทย