อังกฤษ 4 มิ.ย. – ควันหลง ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 ได้สิทธิเตะฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ส่วนเจอร์เก้น คล็อปป์ ได้เพิ่มค่าจ้างเป็น 10 ล้านปอนด์ต่อปี
วันนี้เรายังอยู่ที่ควันหลงที่ ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 โดยล่าสุด พวกเขาจะได้สิทธิฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์โลก หรือ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ครั้งแรกในรอบ 14 ปี รวมถึงรายได้ต่างๆ ที่จะได้รับจำนวนมหาศาล
ตามธรรมเนียมที่ผ่านมา สโมสรที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะได้สิทธิ์ลงเตะในศึก ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ แต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ได้ประกาศเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันชิงแชมป์สโมสรโลกเป็น 24 ทีมทุกๆ 4 ปี แทนศึกฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ และยกเลิกการแข่งขันในปี 2019 กับ 2020 และจะกลับมาแข่งขันอีกครั้งในปี 2021 ซึ่งจะทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดดวลแข้งในรายการนี้
แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ สภาบริหารสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ได้ประชุมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มอบหมาย “กาตาร์” จัดศึกฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์โลก 2 ครั้ง ในปี 2019 และ 2020 ซึ่งจะเป็นเทสต์ อีเว้นท์ ก่อนฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย โดยจะทำให้ ลิเวอร์พูล ได้สิทธิดวลแข้งในปีนี้ ร่วมกับ 6 ทีม สำหรับตอนนี้ได้แล้ว 5 ทีม ได้แก่
1. ลิเวอร์พูล (ยุโรป)
2. เอสเปร้องซ์ เดอ ตูนีส (ตูนิเซีย, แอฟริกา)
3. มอนเทอร์เร่ย์ (เม็กซิโก, คอนคาเคฟ)
4. เอียงแก้น สปอร์ (นิว แคลิโดเนีย, โอเชียเนีย)
5. อัล-ซาดด์ (กาตาร์, เจ้าภาพ) เหลือแชมป์โกปา ลิเบอร์ตาดอเรส กับแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก
ส่วนความสำเร็จนี้ ลิเวอร์พูล เตรียมมอบของขวัญให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ด้วยการเพิ่มค่าจ้างเป็น 10 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี เพื่อตอบแทนผลงานพาทีมคว้าแชมป์ ซึ่งคล็อปป์ วัย 51 ปีที่เหลือสัญญา 3 ปี แต่บอร์ดบริหาร “หงส์แดง” ต้องการให้อยู่ระยะยาว จะกลายเป็นผู้จัดการทีมค่าเหนื่อยแพงสุดอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีก รองจาก เป๊ป กวาร์ดิโอลา ของ แมนฯ ซิตี้ ได้รับ 15 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 600 ล้านบาทต่อปี
ขณะที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือสเปอร์ส รับอยู่ 8.5 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 340 ล้านบาทต่อปี และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับอยู่ 7.5 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี และ มานูเอล เปลเยกรินี่ ของเวสต์แฮม 7 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 280 ล้านบาทต่อปี
เดอะ มิร์เรอร์ สื่ออังกฤษ รายงานข่าวว่า ลิเวอร์พูล ทำรายได้รวม 250.9 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 10,286.9 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทีมฟุตบอลทำรายได้จากการแข่งขันฤดูกาลเดียวเกิน 250 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 10,250 ล้านบาท โดยเป็นรายได้ในลีก 152.43 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 6,249.63 ล้านบาท ซึ่งมาจากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดเกมลีกภายในสหราชอาณาจักร, ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดจากต่างประเทศ และค่าโฆษณา โดยเกมลิเวอร์พูล ถูกถ่ายทอดทางทีวีในสหราชอาณาจักรมากกว่า แมนฯ ซิตี้ 3 นัด นอกจากนี้การคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เงินสูงถึง 98.5 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 4,038.5 ล้านบาท โดยมาจากหลายส่วน เช่นเงินรางวัล 67 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2,747 ล้านบาท และส่วนแบ่งจากค่าลิขสิทธิ์ทางทีวี 11.3 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 463.3 ล้านบาท
ผลงานของลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ นักเตะที่ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ลิเวอร์พูล ผงาดสู่จ้าวสโมสรยุโรปสมัยที่ 6 ต้องยกให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์วัย 27 ปี เจ้าของนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีพรีเมียร์ลีก จนทำให้เขาเป็นเป้าหมายของทีมยักษ์ใหญ่ ล่าสุด มาร์ก้า สื่อชื่อดังสเปน รายงานข่าวว่า ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด มีงบประมาณให้ ซีเนดีน ซีดาน ช็อปปิ้งโดยเฉพาะกองหลังกว่า 100 ล้านยูโร หรือประมาณ 3,510 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ใกล้คว้าตัว แฟร์กล็องด์ เมนดี้ แบ็กซ้ายจาก ลียง มาร่วมทัพภายในสัปดาห์นี้ และด้วยงบขนาดนี้ ฟาน ไดค์ จึงถูกโยงมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีชื่อของ มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ ปราการหลังดาวรุ่งจากอาแจ๊กซ์, คาลิดู คูลิบาลี่ ของ นาโปลี และ มิลาน สคริเนียร์ ปราการหลัง อินเตอร์ มิลาน
ส่วนนักเตะอีกคนที่มีข่าวกับทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงทีมชาติอียิปต์ หลังจาก ซาลาห์ ไม่การันตีเรื่องอนาคตกับต้นสังกัด โดยสองสโมสรที่หวังจะคว้าตัว ซาลาห์ไปร่วมทีม คือ เรอัล มาดริด จากสเปน และ บาเยิร์น มิวนิค จากเยอรมนี จากรายงานข่าวของ อาส สื่อกีฬาชั้นนำของสเปน โดยซาลาห์วัย 26 ปี ซัดจุดโทษให้ทีมขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 2 ในเกมรอบชิงชนะเลิศ ยูซีแอล และยิงไปแล้วถึง 71 ประตู จากการลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล รวมทุกรายการ 104 นัด นับตั้งแต่ย้ายมาจาก อาแอส โรม่า เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2017 .- สำนักข่าวไทย