ลอนดอน 3 ก.ย. – เพิ่งปิดฉากไปไม่กี่วันสำหรับตลาดซื้อขายนักเตะช่วงเปิดฤดูกาล 2025/2026 ที่ปีนี้มีการซื้อขายคึกคัก โดยเฉพาะตลาดนักเตะในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ แต่ละสโมสรไม่ว่าจะเป็นทีมลุ้นแชมป์ หรือทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา ต่างทุ่มเงินซื้อนักเตะมาเสริมทัพกันอย่างดุเดือด เพื่อเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป ทั้งเพื่อลุ้นแชมป์ เพื่อพื้นที่ฟุตบอลยุโรป หรือเพื่อหนีตายไม่ตกชั้นลงไปเล่นในลีกแชมเปี้ยนชิพ ส่งผลให้ตลาดหน้าร้อนฤดูกาลนี้ มีเม็ดเงินที่สโมสรต่างๆ ในพรีเมียร์ลีกทุ่มเสริมทัพมหาศาลเป็นสถิติใหม่ถึง 3,087 ล้านปอนด์! เรียกว่ามากกว่าเม็ดเงินที่ลีกฟุตบอลอาชีพสูงสุดอีก 4 ลีกใหญ่ในยุโรป คือ เซเรีย อา ของอิตาลี บุนเดสลีกาของเยอรมนี ลาลีกาของสเปน และลีก เอิง ของฝรั่งเศส ใช้จ่ายรวมกันเสียอีก
ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจที่สุด หนีไม่พ้นในวันปิดตลาด 1 กันยายน ที่มีการซื้อขายและนักเตะโยกย้ายทีมกันอย่างสนุกสนาน หนึ่งในนั้นคือ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล เจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว คว้า อเลกซานเดอร์ อิซัค กองหน้าทีมชาติสวีเดนของนิวคาสเซิล มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 125 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,460 ล้านบาท) หลังจากที่มีข่าวให้ความสนใจตามจีบกองหน้าฝีเท้าฉกาจรายนี้มานานหลายเดือน และก่อนหน้านี้ เคยยื่นข้อเสนอให้นิวคาสเซิล 110 ล้านปอนด์ แต่ถูกทีม ‘สาลิกาดง’ ปฏิเสธ
การย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูลของอิซัค เกิดขึ้นได้ส่วนหนึ่งก็เพราะนิวคาสเซิลสามารถซื้อ โยอัน วิสซา กองหน้าจากสโมสรเบรนท์ฟอร์ด มาร่วมทีมได้ด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์ เพื่อมาเป็นกองหน้าแทนที่อิซัคทันเวลาก่อนตลาดปิด รวมถึงก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งได้ตัว นิค โวลเตอแมด กองหน้าชาวเยอรมันจาก สตุ๊ตการ์ต ด้วยค่าตัวแพงเป็นสถิติสโมสร 65 ล้านปอนด์
นักเตะไร้ใจ-ไม่เป็นมืออาชีพ-ไม่เคารพสัญญา
การย้ายตัวของทั้ง อิซัค และ วิสซา เป็นที่พูดถึงของทั้งบรรดากูรูลูกหนัง สื่อมวลชน และแฟนบอลอังกฤษ จากสิ่งที่หลายคนกล่าวหาทั้งคู่ ว่ามีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจและไม่เป็นมืออาชีพ
ในกรณีของอิซัค ทันทีที่เริ่มมีข่าวว่าลิเวอร์พูลให้ความสนใจอยากได้ตัวเขามาร่วมทีมช่วงก่อนเปิดฤดูกาลนี้ สื่อมวลชนอังกฤษตีข่าวว่าอิซัคเริ่มทำตัวงอแง ไม่ว่าจะเป็นการแกล้งเจ็บเพื่อไม่ไปร่วมทีมนิวคาสเซิลทัวร์สหรัฐอเมริกา ไม่ฝึกซ้อมกับทีม ก่อนที่เจ้าตัวจะออกแถลงการณ์ผ่านสื่อออนไลน์ กล่าวหาต้นสังกัดอย่างนิวคาสเซิล ว่าผิดคำสัญญาที่เคยรับปากว่าจะยอมให้เขาย้ายทีมได้ในฤดูกาลนี้ หากมีทีมใหญ่ติดต่อเข้ามาในราคาที่เหมาะสม และว่าเขาคงไม่ลงเล่นให้กับทีมอีกต่อไป เพราะความสัมพันธ์มาถึงจุดแตกหัก ไม่อาจร่วมงานกันได้อีกแล้ว

เช่นเดียวกับวิสซา ที่ตกเป็นข่าวว่านิวคาสเซิลให้ความสนใจซื้อไปร่วมทีมเพื่อแทนที่อิซัค แต่ต้นสังกัดอย่างเบรนท์ฟอร์ดบอกปัดไม่ขาย ทำเอาวิสซาถึงกับงอน ลบบัญชีสื่อออนไลน์ของทีมออกจากอินสตาแกรม ไม่ไปซ้อมกับทีม แล้วออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เบรนท์ฟอร์ดรักษาคำพูด ด้วยการยอมให้เขาย้ายออกจากทีม
BBC Football รายงานว่า บรรดากูรูลูกหนัง หรือนักวิเคราะห์วิจารณ์เกม ซึ่งเคยเป็นอดีตนักเตะชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น คริส ซัตตัน, อลัน เชียร์เรอร์ และ เวย์น รูนีย์ ล้วนออกมาโจมตีทั้งอิซัคและวิสซา ว่าทำตัวน่ารังเกียจ จากพฤติกรรมที่เรียกว่า downing tools อันหมายถึงการไม่ยอมทำหน้าที่นักฟุตบอลอาชีพ ทั้งการไม่ลงซ้อม ไม่ทุ่มเทอย่างเต็มที่ ทำตัวให้เพื่อนร่วมทีมอิดหนาระอาใจ หรือแกล้งเจ็บ เพื่อกดดันสโมสรต้นสังกัดให้ยอมปล่อยตัวตนเองให้กับทีมอื่นที่ติดต่อขอซื้อตัว ทั้งที่นักเตะยังมีสัญญาผูกพันกับต้นสังกัด ได้รับค่าจ้างทุกสัปดาห์ จึงควรที่จะทำหน้าที่ของตนเอง ซึ่งก็คือการลงฝึกซ้อมและลงเตะอย่างเต็มที่สุดความสามารถ ไม่ใช่งอแงขอย้ายทีมทันทีที่มีสโมสรอื่นติดต่อเข้ามาและยื่นค่าเหนื่อยสูงกว่าให้พิจารณา
BBC Football รายงานว่า บรรดากูรูลูกหนัง หรือนักวิเคราะห์วิจารณ์เกม ซึ่งเคยเป็นอดีตนักเตะชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น คริส ซัตตัน, อลัน เชียร์เรอร์ และ เวย์น รูนีย์ ล้วนออกมาโจมตีทั้งอิซัคและวิสซา ว่าทำตัวน่ารังเกียจ จากพฤติกรรมที่เรียกว่า downing tools อันหมายถึงการไม่ยอมทำหน้าที่นักฟุตบอลอาชีพ ทั้งการไม่ลงซ้อม ไม่ทุ่มเทอย่างเต็มที่ ทำตัวให้เพื่อนร่วมทีมอิดหนาระอาใจ หรือแกล้งเจ็บ เพื่อกดดันสโมสรต้นสังกัดให้ยอมปล่อยตัวตนเองให้กับทีมอื่นที่ติดต่อขอซื้อตัว ทั้งที่นักเตะยังมีสัญญาผูกพันกับต้นสังกัด ได้รับค่าจ้างทุกสัปดาห์ จึงควรที่จะทำหน้าที่ของตนเอง ซึ่งก็คือการลงฝึกซ้อมและลงเตะอย่างเต็มที่สุดความสามารถ ไม่ใช่งอแงขอย้ายทีมทันทีที่มีสโมสรอื่นติดต่อเข้ามาและยื่นค่าเหนื่อยสูงกว่าให้พิจารณา
นักวิเคราะห์หลายคนบอกว่า พฤติกรรมของทั้งอิซัคและวิสซา กำลังจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ไม่น่าเป็นแบบอย่างให้นักเตะคนอื่นๆ ว่าถ้าไม่พอใจสโมสรเดิมและอยากย้ายทีม ก็ต้องทำตัวแบบไม่เป็นมืออาชีพแบบนี้ ประท้วงไม่ลงซ้อมไม่ลงเตะ บีบให้สโมสรต้องหาทางขายออกไปเพื่อยุติข้อพิพาท พร้อมกับยกตัวอย่างกรณี มาร์ค เกฮี กองหลังทีมชาติอังกฤษของสโมสร คริสตัล พาเลซ ที่มีข่าวว่าลิเวอร์พูลให้ความสนใจ พร้อมยื่นข้อเสนอให้ไปร่วมทีมในช่วงเปิดตลาดซื้อขายที่ผ่านมา แต่เกฮียังคงแสดงความเป็นมืออาชีพเต็มที่ ไม่งอแง ลงเล่นอย่างทุ่มเทให้พาเลซทุกนัดในฤดูกาลนี้ ทั้งที่เจ้าตัวอยากไปร่วมทีมลิเวอร์พูลใจจะขาด แต่สุดท้าย กลับกลายเป็นว่า เกฮีอกหักไม่ได้ย้ายไปเล่นให้ ‘หงส์แดง’ เนื่องจาก คริสตัล พาเลซ หานักเตะกองหลังคนใหม่มาทดเทนไม่ทันเส้นตายก่อนปิดตลาด เลยขวางไม่ให้เกฮีย้ายออกจากทีมในนาทีสุดท้าย
สโมสรทำธุรกิจ-ซื้อขายนักเตะเป็นเรื่องปกติ
ทรอย ดีนีย์ อดีตกองหน้าชื่อดังของสโมสรวัตฟอร์ด ที่ปัจจุบันผันตัวเป็นนักวิเคราะห์เกม บอกว่า กรณีของอิซัคและวิสซา คงจะโทษนักเตะเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะสโมสรฟุตบอลก็ทำธุรกิจซื้อขายนักเตะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว นักเตะอยากย้ายทีมเมื่อใดมักจะตกเป็นเป้าถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถูกโจมตีว่าไม่เคารพสัญญา ไม่ซื่อสัตย์ต่อสโมสรและแฟนบอล แต่อย่าลืมว่า สโมสรเองก็ขายนักเตะให้ทีมอื่นตลอดเวลาเช่นกัน หากมีข้อเสนอดีๆ เข้ามา แม้ว่านักเตะที่ขายออกไปจะยังมีสัญญาอยู่กับทีม ทีตอนนี้กลับไม่มีใครบอกว่าสโมสรเอาแต่ได้ ขายนักเตะที่ตนเองไม่ใช้งานเพื่อเอาเงิน หรือหาทางรีดค่าตัวนักเตะจากทีมที่อยากได้ด้วยราคาสูงที่สุด ไม่เพียงแต่นักเตะเท่านั้นที่ถูกโละ สโมสรฟุตบอลยังพร้อมที่จะปลดหรือไล่ผู้จัดการทีมอยู่ตลอดเวลา หากทำผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจ ทั้งที่ผู้จัดการทีมก็มีสัญญาผูกพันกับสโมสรไม่ต่างจากนักเตะ
แฟนบอลหลายคนยังวิพากษ์วิจารณ์สโมสรนิวคาสเซิล ว่าไม่ยอมทำตามคำมั่นสัญญาที่เคยรับปากไว้กับอิซัค ทั้งการเพิ่มค่าเหนื่อย ยอมปล่อยตัวหากมีสโมสรใหญ่ติดต่อมา ทำเหมือนอิซัคเป็นผู่ร้ายฝ่ายเดียว จนท้ายที่สุด ก็ยอมปล่อยอิซัคด้วยการรีดค่าตัวสูงเป็นสถิติเกาะอังกฤษถึง 125 ล้านปอนด์ แถมยังไปคว้าวิสซามาเป็นกองหน้าคนใหม่แทน ทั้งที่จริงๆ แล้ว วิสซาก็มีพฤติกรรมที่ไม่ได้ต่างไปจากอิซัคเลยแม้แต่น้อย
อนาคตตลาดนักเตะ-อยากย้ายต้องได้ย้าย
แน่นอนว่า เรื่องราวของอิซัคและวิสซา อาจกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ให้กับบรรดานักฟุตบอลอาชีพทั้งหลาย ว่าหากไม่พอใจสภาพการณ์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะไม่ได้ลงเล่น ถูกดอง เจรจาค่าเหนื่อยไม่คืบหน้า หรืออยากย้ายออกจากทีมเพื่อไปเล่นกับทีมใหญ่ที่จ่ายค่าเหนื่อยแพงกว่า ก็แค่ทำตัว ‘ไม่เป็นมืออาชีพ’ มาซ้อมสาย ลงเล่นแบบไม่เต็มร้อย โพสต์วิจารณ์ผู้จัดการทีมลงสื่อออนไลน์ เดี๋ยวก็ได้ย้ายออกจากทีมสมใจ สัญญาที่เซ็นไว้ดูจะไม่มีความหมายอีกต่อไป
แต่ข้อเท็จจริงที่สำคัญอีกอย่างก็คือ นักเตะเป็นทรัพย์สินของสโมสรฟุตบอล หากทีมอื่นสนใจอยากได้ตัวและยื่นข้อเสนอซื้อเข้ามา แล้วสโมสรต้นสังกัดเห็นว่าเหมาะสม ก็พร้อมที่จะปล่อยตัวออกไปอย่างไม่มีเยื่อใยเช่นกัน แม้นักเตะเหล่านี้จะยังมีสัญญาผูกพันกับทีม ทุ่มเทรับใช้สโมสรอย่างเต็มร้อย ช่วยให้สโมสรประสบความสำเร็จ และเป็นที่รักของแฟนบอลก็ตาม
เพราะสุดท้ายแล้ว ‘ฟุตบอลอาชีพ’ (โดยเฉพาะในต่างประเทศ) คือธุรกิจที่มีเม็ดเงินมหาศาล ผลกำไรจากการซื้อขายนักเตะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยหล่อเลี้ยงสโมสรให้อยู่ต่อไปได้
‘สัญญา’ ที่ลงนามกันไว้ ก็เป็นแค่เครื่องมือช่วยให้การซื้อขายเป็นธรรม เป็นที่ยอมรับได้ทั้งฝ่ายสโมสรและนักฟุตบอล ขณะที่ ‘ความซื่อสัตย์และภักดี’ ดูจะเป็นสิ่งที่หาได้ยากขึ้นในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน-815.-สำนักข่าวไทย
แหล่งข้อมูล
https://www.bbc.com/sport/football/articles/c3wnw63d13lo
https://www.nytimes.com/athletic/6552718/2025/08/14/pulisic-weah-evil-usmnt-podcast/
https://www.thesun.co.uk/sport/36345538/alexander-isak-strike-liverpool-transfer-premier-league-newcastle/