“ธนาธร” ไม่เห็นด้วยมติศาล รธน.

กทม. 23 พ.ค.-“ธนาธร” ไม่เห็นด้วยมติศาล รธน. ยืนยันพรรคอนาคตใหม่เดินหน้ารวมเสียงตั้งรัฐบาล ตั้งข้อสังเกต การทำงาน กกต.เร่งรีบ

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องกรณีการถือครองหุ้นสื่อ และให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ว่าแม้ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งให้ตนเองหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยคุณสมบัติ กรณีการถือหุ้นบริษัทสื่อไปแล้ว แต่ตนเองและพรรคอนาคตใหม่ยังยืนยันคงจะเดินหน้ารวมเสียงกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาลและตนเองยังคงเป็นแดนดิเดทนายกรัฐมนตรี และในเมื่อทำงานในสภาไม่ได้ก็จะขอทำงานนอกสภากับประชาชน เพราะมีประชาชนที่เลือกพรรคอนาคนใหม่มากว่า 6.3 ล้านคะแนน

นายธนาธร กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับมติของศาลรัฐธรรมนูญที่รับคำร้องของคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เสนอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าคำร้องของ กกต.ว่ามีความเป็นธรมหรือไม่ มีการพิจาณาอย่างรีบร้อนหรือไม่ และมีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองหรือไม่  เนื่องจากการสืบสวนไต่สวนของคณะกรรมการสืบสวนชุดเล็กของ กกต. ยังไม่สิ้นสุดขั้นตอนในการแสวงหาข้อเท็จจริง โดยยังคงมีหนังสือการเรียกสืบพยานเพิ่มเติมลงวันที่ 17 พ.ค. 2562 และหนังสือดังกล่าวส่งมาถึงวันที่ 22 พ.ค. 2562 แต่เหตุใด กกต.ชุดใหญ่จึงเร่งรีบส่งข้อร้องเรียนไปยังศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 16 พ.ค.2562 โดยไม่รอการไต่สวนของคณะกรรมการชุดเล็กให้พิจารณาเสร็จสิ้นก่อน 

นายธนาธร ยังกล่าวว่า หากเปรียบเทียบความเร่งรีบของคดีนี้กับกรณีการตรวจสอบคุณสมบัติของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรณีที่ภรรยาถือหุ้นในบริษัทเอกชนนั้น พบว่าคำร้องของ กกต.ใช้เวลา 417 วันตั้งแต่การพิจารณาของกกต.ถึงศาลรัฐธรรมนูญ แต่กรณีของตนเองใช้เวลาเพียง 53 วัน จำนวนวันที่แตกต่างคือ 364 วันหรือเกือบ 1 ปี จึงขอตั้งคำถามว่า ตนเอง

ได้รับความเป็นธรรมในกรณีนี้หรือไม่ การทำงานขององค์กรอิสระที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติในประเทศไทยเป็นธรรมหรือไม่ โดยขอเรียกร้องต่อสาธารณะช่วยกันตรวจสอบ พิจารณามติ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญร่วมกันว่าได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ มีความพยายามที่จะผลักดันเรื่องนี้ให้เร็วกว่าปกติหรือไม่

“วันนี้ทุกคนอาจสิ้นหวังและหมดหวังทันทีที่ได้ยินมติของศาล รธน. แต่จะบอกกับผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ว่า เวลานี้ ไม่ใช่เวลาแห่งการสิ้นหวัง แต่เป็นเวลาที่จะเปิดโปงความชั่วร้ายของระบอบเผด็จการ และสิ่งที่เกิดขึ้นคือความอยุติธรรม และขอเชิญคนไทยที่ยังรักประชาธิปไตย ยืดหน้า และลุกขึ้นยืนต่อสู้ เพื่อทวงคืนความยุติธรรมกับสังคมไทย และสร้างสังคมที่เป็นธรรม” นายธนาธร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งก่อนและหลังการแถลงข่าวมี ส.ส.พรรค สมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนมาให้กำลังใจ นายธนาธร โดยตะโกนคำว่า “ธนาธร สู้สู้” และชูมือสามนิ้ว.-สำนักข่าวไทย