รัฐสภา 22 ส.ค.- ประธาน สนช.ยืนยัน การตีความคำถามพ่วงประชามติของ สนช.ไม่เกินเลยจากคำถาม ย้ำ ส.ว.ร่วมพิจารณาเลือกนายกฯ ไม่ใช่ร่วมโหวตอย่างเดียว
ที่ให้ ส.ว.ร่วมพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีใน 5 ปี ซึ่งไม่ใช่แค่ลงมติ แต่การเสนอชื่อในขั้นตอนแรกต้องเป็นไปตามบทหลักที่ต้องเลือกจากบัญชีพรรคการเมืองที่เสนอโดยส.ส. และแต่จะให้ส.ว.เสนอในขยักสองได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับกรธ.
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยืนยันว่า การตีความคำถามพ่วงประชามติของ สนช. ไม่ได้เกินเลยจากที่ถามประชาชน และไม่ได้หลอกลวง การเสนอเจตนารมณ์ของ สนช.ไม่จำเป็นต้องขอมติจากที่ประชุม แต่ได้มอบหมายให้คณะกรรมาธิการของนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.เป็นผู้เสนอ
นายพรเพชร กล่าวว่า ในคำถามพ่วง ถามอย่างชัดเจนว่า เห็นด้วยหรือไม่กับการให้รัฐสภาร่วมกันพิจารณาให้ความเห็นชอบ บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี คำว่า พิจารณาให้ความเห็นชอบนั้น หมายถึง การมีส่วนร่วมตั้งแต่กระบวนการแรก ไม่ใช่แค่ร่วมโหวตเลือกเท่านั้น แต่ก็ต้องไม่ให้กระทบกับบทหลักของร่างรัฐธรรมนูญ ที่การเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งแรก ต้องมาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง
“ขอย้ำว่า คำถามพ่วงถามว่า ให้ ส.ว.ร่วมพิจารณาให้ความเห็นชอบ ไม่ใช่โหวตอย่างเดียว ผมเป็นผู้พิพากษามา การพิจารณาคดี ไม่ใช่ตัดสินอย่างเดียว ไม่ได้บอกว่า ให้ความเห็นชอบเฉยๆ มันมีความหมายกว้าง แต่ถ้ากระบวนการเหล่านั้นกำหนดไว้ในบทหลัก คำถามพ่วงจะไปลบไม่ได้ แต่ในขยักสอง เป็นเรื่องข้อยกเว้น ตอนนี้ผมยืนยัน 2 อย่าง คือ ส.ว.มีสิทธิโหวตเลือกนายกฯ ภายใน 5 ปีทุกครั้ง สิทธิอย่างอื่น ขึ้นอยู่กับบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญ ขอให้รอดู กรธ.เขียนก่อน แล้วสุดท้ายไปตัดสินที่ศาลรัฐธรรมนูญ” นายพรเพชร กล่าว .- สำนักข่าวไทย