กรุงเทพฯ 14 พ.ค. – ในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค.) พรรคประชาธิปัตย์จะเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งจะชี้ชะตาอนาคตพรรคว่าจะไปในทิศทางใด และทิศทางการเข้าร่วมรัฐบาลใหม่ การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ท้าชิง 4 คน แนวโน้มคะแนนจะเป็นไปในทิศทางใด ตรวจสอบได้จากรายงาน
อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าจะทราบแล้วว่า ใครจะเป็นผู้ก้าวเข้ามากุมบังเหียนผู้นำพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ซึ่งต้องรับโจทย์ใหญ่ในการกอบกู้ฟื้นฟูพรรค ที่สำคัญยังต้องตัดสินใจว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่
มีผู้ประกาศตัวชิงตำแหน่ง 4 คน คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ที่มีกองหนุนจากคนรุ่นใหญ่ในพรรค บวกกับบารมีของอดีตเลขาฯ พรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่ยอมกลับมาเป็นแม่บ้านพรรคอีกครั้ง แม้จะพ่ายการเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่ยังมีเสียง ส.ส.ในพื้นที่ภาคกลาง บวกกับฐาน ส.ส.ใต้บางกลุ่มสนับสนุน รวมแล้วน่าจะมีคะแนน ส.ส.ในมือ 18 คน
ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช แม้มีภาพลักษณ์ที่ดีด้านเศรษฐกิจ ทั้งยังมีนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มาเป็นเลขาฯ คู่นี้ภาพภายนอกดี แต่คะแนนน้อย เพราะ กทม.ไม่มี ส.ส.แม้แต่คนเดียว ส่วนภาคเหนือได้มาเพียงคนเดียว
ส่วนนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน แม้ภาพดี แต่ประกาศตัวช้า ทั้งยังมีจุดอ่อนที่ไม่ได้เป็น ส.ส. อาจส่งผลให้คุมเสียงในสภาค่อนข้างลำบาก มีเสียงหนุนในมือ คือ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ที่จะมาเป็นเลขาฯ และอีก 1 คะแนนที่ไม่เผยตัว เพียงแค่ 2 คน
ผู้ท้าชิงที่ประกาศตัวคนสุดท้าย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค แต่มีลุ้น เพราะนายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. ที่ประกาศตัวชัดเจนว่าสนับสนุนการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เดินเกมให้ ทำให้เสียง ส.ส. ซึ่งเดิมมี 14 คน อาจเพิ่มขึ้นมาได้
นอกจากนี้ มีตัวแปรสำคัญเป็นเสียงปาร์ตี้ลิสต์ที่อยู่ในมือของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 12 เสียง ที่ยังไม่ตัดสินใจ หากเทไปให้ใคร ก็มีลุ้นเช่นกัน
โค้งสุดท้ายต่างฝ่ายต่างพยายามหาคะแนน นอกจากการล็อบบี้กลุ่มต่างๆ แล้ว ยังใช้สื่อโซเชียลเป็นอีกช่องทางในการหาเสียงและสร้างสีสัน
คะแนนที่ทุกคนอ้างว่ามีในมือ ยังไม่ถือเป็นข้อยุติ เพราะยังมีเวลาที่จะล็อบบี้กลุ่มต่างๆ ในพรรค สุดท้ายเป็นการวัดกันระหว่างบารมีของผู้ใหญ่ในพรรค และกลุ่มที่ต้องการร่วมรัฐบาล ว่าฝ่ายไหนจะมีน้ำหนักมากกว่ากัน. – สำนักข่าวไทย