หุ้นดิ่งหวั่นสงครามการค้า-จัดตั้งรัฐบาลใหม่

กทม.13 พ.ค.-หุ้นไทยร่วงต่อหวั่นสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ด้านแบงก์ชาติออกโรงโต้ไม่ได้แทรกแซงค่าเงินให้ได้เปรียบการค้ากับสหรัฐ


วันนี้ ปิดตลาดหุ้นไทยวันนี้ ร่วงลง 8.56 จุด ที่ระดับ 1,640.13 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,044.11 ล้านบาท เป็นไปตามหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ติดลบ ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ติดลบ ซึ่งหุ้นไทยก็มีปัจจัยทั้งในและต่างประเทศที่รุมเร้า ในประเทศก็เป็นกังวลเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ที่เรียกได้ว่าฝุ่นตลบ พรรคเล็กเล็ก พร้อมร่วมมือ พปชร.


ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คือ กังวลสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่ยังคงยืดเยื้อ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเป็น 25% จากเดิม 10% และขณะนี้ก็ให้คณะทำงานศึกษาที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก ขณะที่จีนก็ได้ปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่า ตลาดก็กังวลจะทำให้เกิดแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา หลังจากจีนปล่อยให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่า เงินหยวนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน วันนี้ ที่ระดับ 6.88 หยวนต่อดอลลาร์ นักวิเคราะห์คาดว่า เงินหยวนจะร่วงลงในช่วง 5-6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วง 3 เดือนหน้านี้ ซึ่งเป็นกลไกในการรองรับภาวะผันผวนจากผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังจากที่จีนถูกเก็บภาษีสินค้าเพิ่มขึ้น


การตอบโต้ทางการค้าที่รุนแรงก็เป็นผลมาจากสหรัฐนั้น ขาดดุลการค้าและก็มีข่าวที่สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานด้วยว่า สหรัฐจะเพิ่มจำนวนประเทศที่ถูกตรวจสอบการแทรกแซงค่าเงินจาก 12 ประเทศ เป็น 20 ประเทศ โดยมีรายชื่อประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ในกรณีนี้ นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ไทยไม่ได้แทรกแซงค่าเงิน เพื่อให้เกิดความได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐ เพียงแต่ไทยมีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐอยู่บ้าง จึงอาจมีชื่ออยู่ในบัญชีของประเทศที่จะมีการติดตามต่อไป ซึ่งไทยพร้อมที่จะหารือแลกเปลี่ยนความเห็นกับสหรัฐ อย่างต่อเนื่องต่อไป โดย รายงานเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน (FX report) ของกระทรวงการคลังสหรัฐ เป็นเรื่องที่ ธปท.ได้มีการหารือแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้แทนสหรัฐมาอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องการทำงานของกระทรวงการคลังสหรัฐ สถานการณ์เงินทุนเคลื่อนย้ายในตลาดการเงินโลก และมุมมองของประเทศตลาดเกิดใหม่ ที่จำเป็นต้องดูแลความผันผวนของค่าเงิน 

ล่าสุดเงินบาท ไทย เคลื่อนไหวที่ 31.65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มองว่า ความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน ในรอบนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลลบต่อเงินหยวน แต่กลับมากดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ให้อ่อนลงด้วย ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่แตกต่างจากปี 2561 ในครั้งนั้นดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากวัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ย

ปัจจัยความกังวลสงครามการค้ารอบนี้ก็เกรงว่าจะกระทบหนักต่อเศรษฐกิจโลกและกระทบมานยังเศรษฐกิจไทย ภาคการส่งออกขณะนี้เริ่มมีเสียงออกมาระบุว่าอาจจจะโตไม่ถึงร้อยละ 3 และ อาจจะกระทบต่อการท่องเที่ยวด้วยเพราะหากเศรษฐกิจจีนถดถอยนักท่องเที่ยวจีน อาจมาไทยน้อยลง นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุยอาจทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้ต่ำกว่า 3.5% จากเดิมที่คาดจะขยายตัว 3.8% 

แต่บนความเสี่ยง ก็เป็นส่วนที่ไทยอาจมีโอกาส นายกลินทร์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยบอกว่ามองว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในทางบวก อาจจะมีทั้งการลงทุนและคำสั่งซื้อมาในไทยทดแทน หากการเมืองไทยจัดตั้งรัฐบาลและเดินหน้าทำงานอย่างเข้มแข็ง เศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตบวกลบที่ร้อยละ 4 ส่วนส่งออกปีนี้โตประมาณร้อยละ 4-6 ตามกรอบที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันประเมินไว้ 

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า การขึ้นภาษี 25%ของสหรัฐอาจจะจะทำให้สินค้าไทยส่งออกไปสหรัฐ เพื่อทดแทนจีนได้เพิ่มขึ้นอีก เช่น ยานพาหนะและส่วนประกอบ อาหารปรุงแต่งและเครื่องดื่ม ขณะเดียวกัน แม้การขึ้นภาษีสินค้าจีนเมื่อเดือน ก.ย.61 ทำให้การส่งสินค้าไทยที่เป็นห่วงโซ่การผลิตของจีนไปยังจีน ลดลงมาก เช่น ยานพาหนะและชิ้นส่วน อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าบ้าน เครื่องจักรและส่วนประกอบ แต่ไทยมีโอกาสส่งออกสินค้ากลุ่มอื่นๆ ไปจีนได้อีก เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเครื่องสำอาง อาหารปรุงแต่ง  ซึ่ง2 ประเทศ เป็นคู่ค้าสำคัญของไทย โดยไทยส่งออกไป 2 ประเทศคิดเป็นสัดส่วน 25% ของการส่งออกรวมของไทย เท่ากับอาเซียน 10 ประเทศ ไทยจึงต้องแสวงหาโอกาสจากสงครามการค้าและรักษาสัดส่วนสินค้าไทยในตลาดทั้ง 2ให้ได้ ซึ่งในด้านการดูแลเศรษฐกิจไทย รัฐบาลได้หวั่นผลกระทบสงครามการค้า ก็ได้ออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจมาก่อนหน้าหนี้ และพยายามเร่งรัดการลงทุน วันนี้ บอร์ดอีอีซีหรือคณะกรรมการนยโบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก ได้เห็นชอบให้กลุ่มซีพี ลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คือดอนเมือง สุวรรณภูมิและอู่ตะเภา เสนอ ครม.อนุมัติร่วมทุน 28 พ.ค. ก่อนลงนามในสัญญา 15 มิ.ย.นี้ 

โครงการนี้มีระยะทาง 220 กม. มูลค่าโครงการ 224,544.36 ล้านบาท และเร่งรัดการประมูลอีก  4 โครงการขนาดใหญ่ที่เหลือ ซึ่งหลายโครงการจะประกาศผู้ชนะการประมูลใน1-2 เดือนนี้ โดยโรงการที่เหลือได้แก่.สนามบินอู่ตะเภา,.ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO)ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 และ .ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 มีมูลค่ารวมกันราว 5.71 แสนล้านบาท และทุกโครงการจะเป็นการร่วมลงทุนภาครัฐ (PPP) ตามแผนดำเนินการแล้วเสร็จ และเปิดดำเนินการได้ตั้งแต่ปี 2566-2568.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด เร่งอพยพประชาชน

9 ก.ย. – โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด บางพื้นที่ต้องอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่พบแล้วศพหนุ่มพิมายขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำป่าซัดตกท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน คลิปวิดีโอที่ชาวบ้านบันทึกไว้ได้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (8 ก.ย.) ขณะน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมถนนในพื้นที่บ้านรังกาใหญ่ ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังจากมีฝนตกหนัก ระดับน้ำท่วมสูงและเชี่ยวกราก มีชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากไปบริเวณสี่แยกกลางหมู่บ้าน บ้านตะปัน ต.รังกาใหญ่ แม้ชาวบ้านจะเตือนและพยายามตะโกนห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง สุดท้ายถูกน้ำป่าซัดทั้งรถและคนลอยหายไปกับกระแสน้ำ กระทั่งช่วงเที่ยงคืนวันนี้ (9 ก.ย.) ระดับน้ำเริ่มลดลง ชาวบ้านพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง มีกุญแจเสียบคาอยู่ พร้อมกับถังน้ำมัน ลอยมาติดกำแพงโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต ชื่อนายสมชาย อายุ 35 ปี ถูกน้ำป่าซัดตกลงไปในท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลพิมาย เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต นาทีน้ำป่าไหลซัดคนลอยออกจากบ้านคลิปนาทีน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน บ้านตะปัน หมู่ 5 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (8 ก.ย.) โดยจะเห็นว่าน้ำป่าที่ไหลมาจากพื้นที่ อ.ห้วยแถลง หลังจากมีฝนตกติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน […]

“แพทองธาร” เปิดใจหลังศาลพิพากษาคดีชั้น 14

ศาลฎีกา สนามหลวง 9 ก.ย.- “แพทองธาร” สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ลดโทษ “ทักษิณ” เหลือ 1 ปี ครอบครัวยังห่วง-ภูมิใจในผลงานประวัติศาสตร์ รับเป็นนายกฯ คนแรกที่ต้องติดคุก แต่กำลังใจดี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าฟังคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ทางครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่อภัยโทษและลดโทษให้คุณพ่อ ซึ่งพวกเราทั้งครอบครัวสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ เรารู้สึกเรื่องนี้ในทุกๆวัน และขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจห่วงใยให้คุณพ่อและครอบครัวของเรา นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายทักษิณเป็นผู้นำจิตวิญญาณในเรื่องการเมือง ที่ผ่านมาผลงานต่างๆที่ทำเพื่อบ้านเมืองท่านยังเป็นคนที่นึกถึงบ้านเมืองเสมอ ในการหวังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนกินดีอยู่ดี ตัวดิฉันเอง และครอบครัวมีความเป็นห่วงคุณพ่อ และภูมิใจที่คุณพ่อได้สร้างประวัติศาสตร์มากมายให้ประเทศไม่ว่าจะเป็นนโยบายที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนในประเทศ วันนี้ก็เป็นประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีคนแรกที่ต้องจำคุกเรื่องนี้ก็อาจจะค่อนข้างหนักนิดหนึ่ง แต่กำลังใจดีทั้งคุณพ่อและครอบครัว ส่วนตัวดิฉันและพรรคเพื่อไทยยังมุ่งหน้าทำงานต่อเป็นฝ่ายค้านและทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนตรวจสอบรัฐบาลต่อไปในส่วนของพรรคทุกคนมีกำลังใจดี ขอบคุณทุกภาคส่วนประชาชนทุกคนที่ให้ให้กำลังใจและคอยอยู่เคียงข้างกันตลอดที่ผ่านมา.-315 -สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” โพสต์น้อมรับคำพิพากษา

กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – “ทักษิณ” โพสต์น้อมรับคำพิพากษา สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานอภัยลดโทษจำคุกคงเหลือเวลา 1 ปี พร้อมขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุน ทักษิณโพสต์ X ระบุ “พี่น้องประชาชนที่เคารพด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานอภัยลดโทษจำคุกแก่ผมคงเหลือเวลา 1 ปี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ต่อทั้งตัวผม และครอบครัว ผมขอน้อมรับและพร้อมเข้าสู่กระบวนการตามคำพิพากษาในวันนี้ ตลอดระยะเวลาของการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2544-2549 ผมพยายามผลักดันทุกนโยบายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทย ให้พรรคการเมืองแข่งขันกันด้วยนโยบาย สร้างประชาธิปไตยที่กินได้จากผลงานของรัฐบาลที่ทำได้จริง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุดในฐานะนักการเมืองจากการเลือกตั้งของประชาชน แม้ว่าทุกคดีจะเกิดขึ้นหลังการรัฐประหารรัฐบาลของผมเมื่อปี 2549 แต่วันนี้ผมขอมองไปข้างหน้า ให้ทุกอย่างที่ผ่านมามีข้อยุติ ทั้งการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และความขัดแย้งใดๆ อันเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับตัวผม ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนตลอดมา ขอบคุณนักการเมือง สมาชิกพรรคเพื่อไทย และเพื่อนมิตรทั้งหลายที่เคียงข้างกันทั้งในยามสุขและยามยาก ผมตัดสินใจเลือกทางเดินนี้ เพื่อส่งกำลังใจให้ทุกคนเดินไปข้างหน้า ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ด้วยอุดมการณ์และจิตวิญญาณที่เรามีร่วมกันมา จนกว่าจะถึงวันที่เราได้เดินร่วมทางกันอีกครั้ง จากวันนี้แม้ผมจะไร้อิสรภาพ แต่ยังมีเสรีภาพทางความคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ผมจะรักษาความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อใช้เวลาในชีวิตที่เหลืออยู่ รับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ แผ่นดินไทย และประชาชนคนไทย […]

ศาลฎีกาฯ สั่ง “ทักษิณ” รับโทษ 1 ปี ชี้กระบวนการชั้น 14 มิชอบ

ศาลฎีกา 9 ก.ย.- ศาลฎีกานักการเมือง สั่ง “ทักษิณ” รับโทษ 1 ปี ชี้กระบวนการส่งรักษาตัวชั้น 14 มิชอบด้วย กม. – ไม่ได้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน-เพียงกล่าวอ้าง และเป็นโรคเรื้อรัง รักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ เจ้าตัวได้รับประโยชน์ไม่ต้องเข้าเรือนจำ เวลา 10.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ บค 1/2568 กรณีศาลมีคำสั่งให้ไต่สวนว่า การบังคับโทษพันตำรวจโทหรือนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในคดีหมายเลขแดงที่ อม 4/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม 5/2551 และคดีหมายเลขแดงที่ อม 10/2552 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือไม่ โดยให้โจทก์ จำเลย ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ยื่นคำชี้แจงข้อเท็จจริง โจทก์ จำเลย ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทยใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ยืนคำชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลพร้อมเอกสารประกอบ ศาลไต่สวนพยานรวม 31 ปาก […]