นนทบุรี 10 พ.ค. – นักวิชาการมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยชี้สงครามการค้าจีน-สหรัฐ ฉุดเศรษฐกิจไทยและโลกซึมยาวแน่ ขณะที่รัฐมนตรีพาณิชย์มองว่ามีแผนรองรับไม่น่าติดลบ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หลังจากสหรัฐประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีนจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 ซึ่งมีผลตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 10 พฤษภาคมตามเวลาในสหรัฐ ถือว่าเป็นเหตุการณ์ช็อคโลก เนื่องจากก่อนหน้านี้สหรัฐและจีนมีการเปิดเจรจามาแล้ว 3 เดือน คาดว่าจะจบลงด้วยดี แต่ล่าสุดสหรัฐกลับขึ้นภาษีคิดเป็นมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์เหลือร้อยละ 2-2.5 จากเดิมขยายตัวร้อยละ 3 ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศจะขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 3.5 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.7-3.8 ซึ่งผลกระทบครั้งนี้จะให้สินค้าจีนส่งไปสหรัฐมีราคาแพงขึ้นและผลักดันสินค้าจีนมายังตลาดเอเชียและอาเซียนมากขึ้น โดยใช้ราคาแข่งขันและกระทบเศรษฐกิจภายในของจีนชะลอตัว ทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวประมาณร้อยละ 6 จากเดิมคาดว่าขยายตัวร้อยละ 6.4
อย่างไรก็ตาม ขณะที่การส่งออกสินค้าไทยไปจีนจะลดลงโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่จีนนำเข้าจากไทยเพื่อเป็นวัตถุดิบ เช่น ยาง เม็ดพลาสติก ผลไม้ เครื่องคอมพิวเตอร์ ผลกระทบเศรษฐกิจโลก สงครามทางการค้า และเงินบาทแข็งค่ากว่าคู่แข่ง ส่งผลให้การส่งออกไทยติดลบต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่แล้วถึงไตรมาสแรกปีนี้ คาดว่าปีนี้ขยายตัวติดลบร้อยละ 1 ถึงขยายตัวร้อยละ 1 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2-3
นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนลดลงจากเศรษฐกิจจีนด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวไทยปีนี้ที่คาดว่ามีถึง 40 ล้านคน อาจจะไม่ถึงเป้าหมาย โดยเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลใหม่ควรเร่งดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการลงทุนโครงการภาครัฐ โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจต้องมืออาชีพเพื่อแก้ไขสถานการณ์เวลานี้ ส่วนการส่งออกควรขยายฐานกลุ่มอาเซียนมากขึ้นพร้อมทั้งตลาดสหรัฐ นอกจากนี้ ยังต้องดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวน เพื่อให้แข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้
ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักควรส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อรักษาฐานนักท่องเที่ยวให้ได้ตามเป้าหมาย และส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ เร่งเดินหน้าโครงการอีอีซี และเร่งจัดซื้อจัดจ้างโครงการส่วนท่องถิ่นเพื่อให้เกิดการจ้างงาน และดูแลสินค้าเกษตรให้เหมาะสม และส่งเสริมการแปรรูป
ทั้งนี้ คาดว่าสงครามการค้าระหว่างจีนสหรัฐครั้งนี้น่าจะยืดเยื้อและมีการตอบโต้จากจีน ทำให้เศรษฐกิจโลกสั่นคลอนอาจเกิดสงครามเย็นด้านเศรษฐกิจ คือ การสะสมอำนาจทางเศรษฐกิจของมหาอำนาจ 2ประเทศ และขยายอำนาจมายังเอเชียมากขึ้น โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจใหม่วันที่ 16 พฤษภาคมนี้
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์เฝ้าติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่ยอมรับว่ามีทั้งผลดีและผลกระทบ ซึ่งต้องปรับตัวและเท่าที่ได้พูดคุยกับภาคเอกชนกลุ่มต่าง ๆ ยังยืนยันที่จะเดินหน้าผลักดันการส่งออกทุกด้านอย่างเต็มที่ แม้หลายสำนักทั้งภาครัฐและเอกชนมองว่าการส่งออกปีนี้อาจติดลบจากเหตุการณ์สงครามการค้าสหรัฐกับจีนที่เริ่มกลับมารุนแรงขึ้น แต่กระทรวงพาณิชย์ยังมองว่าการส่งออกของไทยปีนี้จะยังคงเป็นบวก และในการประชุมทูตพาณิชย์ปลายเดือนพฤษภาคมนี้คงจะมีการประเมินภาพรวมการส่งออกภายใต้สงครามการค้าให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย