เชียงใหม่ 6 พ.ค.-สภาพอากาศทางภาคเหนือยังร้อนและแล้งต่อเนื่อง แต่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เย็นสบายขึ้น หลังชาวบ้านช่วยกันปลูกป่าไผ่จนธรรมชาติกลับมาสมบูรณ์ แถมยังสร้างรายได้ปีละกว่า 5 ล้านบาท
หลายจังหวัดทางภาคเหนือรวมทั้งเชียงใหม่ในวันที่ฟ้าโปร่ง ทำให้ดวงอาทิตย์ที่เคลื่อนตัวมาตั้งฉากในพื้นที่ ส่องแสงพร้อมความร้อนมาแบบเต็มๆ สะสมอยู่ตามพื้นและเทือกเขาโดยรอบ ทำให้ยังรู้สึกถึงความร้อนอบอ้าวต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะยาวไปถึงเดือนหน้าแม้จะเข้าสู่หน้าฝนก็ตาม
แต่ที่บ้านหัวทุ่ง หมู่บ้านเล็กๆ ในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อากาศเย็นสบายขึ้น ชาวบ้านช่วยกันลดร้อนและแล้ง ด้วยการปลูกไผ่บงมากมายหลายพันกอ ในพื้นที่กว่า 50 ไร่ ที่เคยเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ใกล้หมู่บ้าน ตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว มาถึงวันนี้ไผ่แต่ละกอเติบใหญ่ กลายเป็นป่าไผ่ของชุมชน พร้อมๆ กับธรรมชาติที่กลับมาสมบูรณ์เพิ่มความชุ่มชื้นขึ้น
ป่าไผ่ ยังเป็นเหมือนขุมทรัพย์ของชาวบ้านที่นี่ ซึ่งตัดไม้ไผ่ไปสานก๋วยหรือตะกร้าไม้ไผ่ ส่งขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่สั่งซื้อกันจนแทบสานไม่ทัน ตะกร้าใบละ 7 บาท สัปดาห์หนึ่ง อย่างต่ำทำได้ครอบครัวละ 100 ใบ มีรายได้เสริมเดือนละ 3 พันบาท ถ้าทั้งหมู่บ้านก็เดือนละ 480,000 บาท หรือปีละกว่า 5 ล้านบาท พื้นที่ราว 1 ร้อยไร่ ของสวนแห่งนี้ ในอำเภอเชียงดาว ซึ่งทำสวนเกษตรผสมผสาน ส่วนหนึ่งปลูกไผ่ ทั้งไผ่บง ซางหม่นและไผ่กิ่มซุง ไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม ขายได้ทั้งไม้และหน่อ แถมต่อยอดทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร นำไม้ไผ่มาตกแต่งสวนและทำที่พักง่ายๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวได้ด้วย
ไม่เฉพาะไผ่ แต่การปลูกต้นไม้ทุกชนิด ล้วนเป็นประโยชน์มหาศาล เพิ่มความชุ่มชื้น ลดร้อนและแล้ง หากมีต้นไม้และป่าเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการทำลายธรรมชาติได้มากขึ้นเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย