อุบัติเหตุยังครองแชมป์การแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินของวัยแรงงาน

สพฉ.30 เม.ย..-สพฉ.เปิด  3 อันดับสถิติการแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินของวัยแรงงานผ่านสายฉุกเฉิน 1669 พบอุบัติเหตุยังครองแชมป์ทำแรงงานเจ็บป่วยฉุกเฉินมากสุด รองลงมาคือป่วย อ่อนเพลีย อัมพาตเรื้อรัง และ ปวดท้อง, หลัง, เชิงกราน ปี 61 จนถึงปัจจุบันมีแรงงานพลัดตกหกล้ม อุบัติเหตุ เจ็บปวด มากถึง 42,127 คน วอนสถานประกอบการดูแลสวัสดิภาพแรงงานให้ปลอดภัยจากการทำงาน  เตือนแรงงานดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคหัวใจขาดเลือดหลังพบตัวเลขการแจ้งเหตุอาการหายใจลำบากติดขัดที่มีมากถึง 24,354 คนเช่นกัน


นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติกล่าวว่า สพฉ.ได้รวบรวมสถิติตัวเลขของการแจ้งเหตุผู้ป่วยฉุกเฉินผ่านสายฉุกเฉิน 1669 ของประชาชนในวัยแรงงานตั้งแต่อายุ 20 – 60 ปี ขึ้นไป ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2561 – จนถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562 พบว่า มีการแจ้งเหตุในเรื่องอุบัติเหตุยานยนต์มากที่สุดโดยได้รับแจ้งเหตุในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง คือ 148,377 ครั้ง ส่วนผู้หญิง 80,163 ครั้ง รองลงมาคือการได้รับแจ้งเหตุจาก อาการป่วย อ่อนเพลีย อัมพาตเรื้อรัง โดยได้รับแจ้งเหตุในเพศชายมากกว่าเพศหญิงเช่นกัน  คือ ชาย ได้รับแจ้ง 66,460  ครั้ง  หญิงได้รับแจ้ง 56,835 ครั้ง ขณะที่อันดับ 3 คืออาการปวดท้อง, หลัง, เชิงกราน ได้รับแจ้งเหตุในเพศชาย  42,301 ครั้ง และเพศหญิง 35,900 ครั้ง


นพ.ไพโรจน์ กล่าวต่อว่า นอกจากสถิติของ 3 อันดับแรกที่น่าเป็นห่วงแล้วยังมีสถิติของการแจ้งเหตุผู้ป่วยฉุกเฉินผ่านสายฉุกเฉิน 1669 ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของวัยแรงงานคือการพลัดตกหกล้ม อุบัติเหตุ เจ็บปวด ที่มีการแจ้งเหตุเข้ามามากถึง 42,127 คน ตนจึงอยากฝากเตือนไปถึงสถานประกอบการให้ใส่ใจในการดูแลสวัสดิภาพของแรงงานในการทำงานให้มีความปลอดภัยได้มาตรฐานตามหลักสากลด้วย นอกจากนี้ในส่วนของแรงงานเองหากใครที่ต้องทำงานในพื้นที่เสี่ยงก็อยากให้ตรวจดูอุปกรณ์ สิ่งแวดล้อมที่อยู่ในการทำงานของเราว่าพร้อมและปลอดภัยพอสำหรับการทำงานของเราหรือไม่ หากไม่พร้อมก็ให้รีบแจ้งผู้ประกอบการให้เข้ามาดูแลทันทีเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับเราและเพื่อนร่วมงานด้วย และที่สำคัญแรงงานเองก็ต้องดูแลตัวเองให้พร้อมสำหรับการทำงานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงด้วย 

รองเลขาธิการ สพฉ.กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อีกหนึ่งสถิติที่มีการแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินเข้ามาและเป็นเรื่องที่ประชาชนวัยแรงงานต้องให้ความสำคัญเช่นกันคือ คืออาการหายใจลำบากติดขัดที่มีการแจ้งเหตุเข้ามามากถึง 24,354 คนเช่นกัน ซึ่งอาการหายใจลำบากติดขัด โรคที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ โรคภาวะหัวใจขาดเลือด หรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (STEMI) ซึ่งภาวะของโรคหัวใจขาดเลือดคือโรคที่เกิดขึ้นเนื่องจากหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบหรือตัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจมีเลือดไปเลี้ยงลดลงหรือไม่มีเลย  เป็นผลให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ  หากรุนแรงทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายได้ โดยอาการของผู้ป่วยนั้น จะมีอาการเจ็บแน่น จุกเสียดที่หน้าอกหรือท้องส่วนบน โดยเฉพาะในขณะออกแรง หรือมีอาการแน่นเหนื่อยอึดอัด บริเวณกลางหน้าอก หรือค่อนมาทางซ้าย และมีอาการเจ็บลึกๆ หายใจไม่สะดวกรวมถึงอาจมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นการ หอบเหนื่อย คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อแตก ใจสั่น หน้ามืด บางรายนอกจากแน่นหน้าอกแล้ว ยังอาจเจ็บร้าวไปที่หัวไหล่ แขน หรือ คอ 

สำหรับสาเหตุที่ทำให้วัยแรงงานมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเกิดจากปัจจัยหลายอย่างได้แก่ มีประวัติโรคหัวใจขาดเลือดของคนในครอบครัว แรงงานหลายท่านมีภาวะของความเครียดบางคนจึงสูบบุหรี่หนักซึ่งการสูบบุหรี่ในปริมาณที่มากในแต่ละวันจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดมากขึ้นด้วย นอกจากนี้แรงงานที่มีโรคประจำตัวเช่น โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน แรงงานที่มีภาวะอ้วนและไม่ค่อยได้ออกกำลังกายก็จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเพิ่มมากขึ้นด้วย 


นพ.ไพโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝากให้ประชาชนในวัยแรงงานดูแลสุขภาพของตนเองให้ดี  อยากให้มีการแบ่งช่วงเวลาจากการทำงานมาออกกำลังกาย บ้าง ให้เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นตรวจเช็คสุขภาพประจำปี ไม่สูบบุหรี่  ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และที่สำคัญคือต้องไม่เครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ และหากแรงงานท่าใดพบว่าตนเองหรือเพื่อนร่วมงานมีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินตามที่ตนกล่าวมาก็ขอให้รีบโทรแจ้งสายฉุกเฉิน1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

เปิดโปง สร้างคดีอุบัติเหตุเป็นฆาตกรรมหวังเงินประกัน

คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ อำพรางเพื่อหวังเงินประกัน 14 ล้านบาท ที่ จ.สกลนคร เมื่อคดีพลิกจากอุบัติเหตุ เป็นการลวงผู้เสียชีวิตไปฆ่า ซึ่งบริษัทประกันภัยพบข้อพิรุธหลายอย่าง จนนำไปสู่การร้องให้ตำรวจรื้อฟื้นคดีจนจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดพร้อมขยายผลไปถึงเจ้าของสำนวน ความซับซ้อนของคดีนี้เป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน

“บิ๊กอ๊อด” พร้อมสู้คดีชี้แจงทุกเรื่องในชั้นศาล

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย กรณีสมาคมฟุตบอลฯ กับ สยามสปอร์ต ด้าน พล.ต.อ.สมยศ อดีตนายกสมาคมยืนยันพร้อมสู้คดีในชั้นศาล หาก “มาดามแป้ง” ฟ้องเรียกคืน 360 ล้านบาท

สภาฯ หมื่นล้าน ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก

สภาฯ หมื่นล้านแตกอีกแล้ว! รอบนี้ ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก น้ำไหลเจิ่งนองลงมายังอาคารจอดรถชั้นใต้ดินบี 1 ระดมแม่บ้านทำความสะอาด-จัดระเบียบอำนวยความสะดวก จนท.รุดซ่อมแซม

รพ.รามาธิบดี แถลงบุคลากรบาดเจ็บ 1 คน เหตุเพลิงไหม้

รพ.รามาธิบดี แถลงเหตุเพลิงไหม้ ผู้ป่วยทุกคนปลอดภัย มีบุคลากร 1 คน บาดเจ็บสูดเขม่าควัน รักษาตัวอยู่ไอซียู คาดกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ ด้านอุปนายกวิศวกรรมสถานฯ ตรวจสอบเบื้องต้นอาคารยังอยู่ในสภาพปกติ ขณะที่ พฐ. คาดไฟฟ้าลัดวงจร