กกต. 23 เม.ย.-กกต.มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหา “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ถือหุ้นบริษัทสื่อฯ เปิดโอกาสให้ชี้แจงภายใน 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 17.00 น. วันนี้ (23 เม.ย.) นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงว่าที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติให้แจ้งข้อกล่าวหา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ลำดับที่ 1 เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ตามมาตรา 98 (3) ของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 42(3) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. อันเป็นการกระทำฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฏหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง
นายแสวง กล่าวว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว มีหลักฐานเบื้องต้นฟังได้ว่า นายธนาธร เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ จำนวน 675,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้นตั้งแต่ 1350001 ถึง 2025000 กกต.จึงได้มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมอบหมายให้เลขาธิการ กกต.เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาและรับฟังพยานหลักฐานแทน ทั้งนี้ให้นายธนาธรชี้แจงแสดงหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาได้ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งนี้นายธนาธร มีสิทธิ์ที่จะไม่ให้ถ้อยคำ หรือมีหนังสือชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา และมีสิทธิ์ที่จะให้ทนายความ หรือบุคคลซึ่งไว้วางใจเข้าร่วมรับฟังการชี้แจง แสดงหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาได้
นายแสวง กล่าวอีกว่า สำหรับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาจะส่งถึงนายธนาธร ในวันนี้ (23 เม.ย.) ซึ่งขณะนี้ถือเป็นขั้นตอนการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าข้อกล่าวหามีมูลเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ยังไม่ถึงขั้นตัดสินว่าทำผิดไปแล้ว หลังจากนี้ต้องรอฟังการชี้แจงของนายธนาธร ซึ่งอาจจะแก้ข้อกล่าวหาได้ และที่นายธนาธรส่งทนายมายื่นคำชี้แจงก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานฯ จะมอบให้กับคณะกรรมการไต่สวนนำไปพิจารณารวมกับคำชี้แจงของนายธนาธรที่จะชี้แจง ทั้งนี้ เมื่อคณะกรรมการไต่สวนได้รับฟังคำชี้แจงจากฝั่งของนายธนาธร ก็จะนำมาสรุปผลการไต่สวนก่อนเสนอให้ที่ประชุม กกต. พิจารณาอีกครั้ง
นายแสวง ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นที่ว่าหากผลการไต่สวนพบว่านายธนาธร กระทำผิดจริง กกต.จะพิจารณาให้ใบส้มหรือไม่ เพราะขั้นตอนดังกล่าวเป็นดุลยพินิจของ กกต.ไม่ขอสมมุติ ไม่ขอให้คำตอบแทน กกต. เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน รวมทั้งจะดำเนินคดีอาญาในฐานะที่รู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติในการลงสมัคร แต่ยังมาลงสมัครหรือไม่ และการใช้ตำแหน่งหัวหน้าพรรครับรองส่งตนเองลงสมัคร จะเข้าข่ายให้เป็นเหตุต้องยุบพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ โดยเห็นว่าต้องไปดูข้อเท็จจริงตอนนั้น แต่ถ้าตามกฎหมายฟังได้ว่ารู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่มีสิทธิสมัคร แต่ยังมาสมัคร หากเข้าช่องนั้น ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ส่วนเรื่องการส่งสมัครนายธนาธร สมัครกรรมการบริหารพรรครู้เห็นแล้วเป็นเหตุให้ยุบพรรคหรือไม่นั้น ขอให้รอฟังข้อเท็จจริงก่อน เพราะยังมีประเด็นเรื่องเงื่อนเวลาก่อนหรือหลังจะต้องดำเนินการอย่างไร แต่ยอมรับว่าถ้าก่อนการประกาศรับรองผล กกต.พบว่ามีการทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เป็นอำนาจของหน้าที่ กกต.ที่จะดำเนินการ
ส่วนกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า กกต.ไม่สามารถวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติ ได้เพราะเลยกำหนดเวลาการตรวจสอบคุณสมบัติไปแล้ว นายแสวง กล่าวว่า ไม่สามารถกล่าวแบบนั้นได้ เนื่องจากไม่ว่าก่อนเลือกตั้งหรือหลังเลือกตั้ง กกต.สามารถตรวจสอบคุณสมบัติได้ เป็นอำนาจของ กกต.
เมื่อถามถึงกระแสข่าวกรณีประธานอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนไม่พอใจ ขอลาออกจากหน้าที่ นายแสวง กล่าวว่า เป็นแค่ข่าว ยังไม่มีการลาออก สำหรับการตรวจสอบกรณีดังกล่าว มีคณะกรรมการ 2 ชุด ชุดแรก คือ คณะกรรมการสืบสวนไต่สวน และคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวน ซึ่งจะทำหน้าที่กลั่นกรองสำนวนจากชุดไต่สวน.-สำนักข่าวไทย