สศอ.วิเคระห์นโยบายพรรคการเมือง

กรุงเทพฯ 16 เม.ย. – สศอ.ชี้ทุกพรรคชูนโยบายขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่อนาคต เน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับฝีมือแรงงาน ปรับปรุงกฎหมายเอื้อต่อการลงทุน


สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยผลการวิเคราะห์นโยบายพรรคการเมืองหลัก พบว่า แทบทุกพรรคให้ความสำคัญด้านการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอนาคตที่มีศักยภาพ (S-curve) โดยนโยบายส่วนใหญ่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ยกระดับฝีมือแรงงาน สร้างอุตสาหกรรมสีเขียว และปรับปรุงกฎหมายให้เอื้อต่อการลงทุน ซึ่งเชื่อว่าทุกภาคส่วนจะสามารถเดินหน้าทำงานเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศได้ทันที

นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการ สศอ. เปิดเผยว่า ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมาได้ติดตามการแถลงนโยบายของพรรคการเมือง ทั้งพรรคใหญ่ และพรรคเล็ก ซึ่งทุกพรรคมีนโยบายที่ดีแตกต่างกันไป โดยมีอุดมการณ์ร่วมกันในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ยกระดับรายได้และความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งภาคอุตสาหกรรมถือเป็นกำลังสำคัญส่วนหนึ่งที่จะผลักดันให้นโยบายเหล่านี้บรรลุผลสำเร็จ  ดังนั้น มุมมองและทิศทางนโยบายเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของพรรคการเมืองที่จะเข้ามาบริหารประเทศในอนาคตจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง


สศอ.ได้วิเคราะห์เชิงนโยบายเบื้องต้น พบว่า พรรคการเมืองหลักส่วนใหญ่มีพื้นฐานแนวคิดด้านการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมที่มีความคล้ายคลึงกันและเป็นไปในทิศทางเดียวกับยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของภาคเอกชน ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน ทั้งภายในและภายนอกประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้พัฒนาสินค้าและบริการ โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ เช่น Big Data  ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นต้น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น  การปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยและไม่จำเป็น  การปฏิรูปบทบาทภาครัฐให้เอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน และการพัฒนาทักษะกำลังคนให้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ หรือระบบการศึกษาทวิภาคี  

สำหรับนโยบายที่น่าสนใจของพรรคการเมืองหลัก ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ผ่านโครงการประกันรายได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของพรรค โดยสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ เช่น รถไฟความเร็วสูง พรรคพลังประชารัฐ ชูนโยบาย 7 เศรษฐกิจประชารัฐ  เน้นการต่อยอดนโยบายรัฐบาลเดิม เช่น มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และนวัตกรรมอุตสาหกรรมสีเขียว  ยกระดับเอสเอ็มอี  ปฎิรูประบบราชการให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง  พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการรถไฟทางคู่  พรรคเพื่อไทย เน้นการเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายของประชาชนในประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตร ยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพ การนำเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมมาใช้สร้างความเข้มแข็งของภาคอุตสาหกรรม  การส่งเสริมสินค้า Made in Thailand

พรรคภูมิใจไทย ให้ความสำคัญกับพืชเศรษฐกิจใหม่อย่างกัญชา โดยเน้นนโยบายการปลูกเสรี เพื่อการแพทย์ทางเลือก นอกจากนี้ มีนโยบายการลงทุนแบบกระจายทุกพื้นที่ทั่วไทย การปฏิรูปการทำงานภาครัฐ โดยเฉพาะระบบการจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในการชี้นำประเทศ และพรรคอนาคตใหม่ เน้นการสร้างเศรษฐกิจของประเทศด้วยอุตสาหกรรมรถไฟ โดยมีนโยบายผลักดันการขนส่งแบบ Hyperloop และให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ รวมทั้งมีการส่งเสริมการใช้ Open Data เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างงาน และสร้างธุรกิจ 


นอกจากนี้ ยังมีพรรคขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีนโยบายผลักดันภาคอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ เช่น นโยบายพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของพรรคเสรีรวมไทย นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตรของพรรคชาติพัฒนา ซึ่งจะช่วยให้เกิดการกระจายรายได้สู่ระดับท้องถิ่นมากขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ เชื่อว่ารัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศจะมีการวิเคราะห์สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในภาคอุตสาหกรรมทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อประเมินการจัดสรรงบประมาณสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้เกิดผลเชิงบวกสูงสุดต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ภายใต้บริบทต่าง ๆ ที่เป็นกระแสอยู่ในปัจจุบันและกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ แม้พรรคส่วนใหญ่จะมีประเด็นนโยบายที่ใกล้เคียงกัน เช่น นโยบายด้านค่าแรง ซึ่งเกือบทุกพรรคให้ความสำคัญกับนโยบายดังกล่าว เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่และปากท้องของประชาชน แต่ความคล้ายกันเชิงนโยบายก็ยังมีความแตกต่างกันบ้างในแง่ของวิธีการ เช่น บางพรรคเลือกใช้วิธีการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ขณะที่บางพรรคอาศัยวิธีการประกันรายได้ บางพรรคใช้นโยบายโครงข่ายความปลอดภัยทางสังคม หรือการสร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า อย่างไรก็ตาม จุดหนึ่งที่เห็นได้ชัดเกี่ยวกับนโยบายค่าแรง คือ การผลักดันระบบการจ่ายค่าแรงตามทักษะของบรรดาพรรคหลัก ซึ่งชี้ให้เห็นว่าในอนาคตทิศทางแรงงานภาคอุตสาหกรรมจะมีการยกระดับทักษะและการเสริมทักษะมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการยกระดับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าภายในเทศบาลตำบลรือเสาะ

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าจอดในอาคารจอดรถ เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเสร็จพิธีต้อนรับนายกเทศมนตรีคนใหม่ ทำให้ไฟไหม้รถเสียหายหลายคัน

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี