เอสซีบีปาร์ค 10 เม.ย. – ไทยพาณิชย์หั่นจีดีพีเหลือโตร้อยละ 3.6 เหตุส่งออกโตเพียงร้อยละ 2.7 มองเอกชนชะลอการลงทุนรอรัฐบาลใหม่
นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (อีไอซี) ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า อีไอซีปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3.6 จากเดิมที่ร้อยละ 3.8 เนื่องจากมูลค่าการส่งออกของไทยเติบโตลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก คาดส่งออกปีนี้โตร้อยละ 2.7 จากเดิมร้อยละ 3.4 ผลจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณชะลอตัว ภาคธุรกิจรอดูความชัดเจนภายหลังการเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งที่กลุ่มพรรคการเมือง 2 ขั้ว ได้จำนวนสมาชิกผู้แทนราษฎรใกล้เคียงกัน ทำให้มีโอกาสสูงที่รัฐบาลใหม่จะเป็นรัฐบาลผสมที่มีเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎรมากกว่าฝ่ายค้านไม่มากนัก ซึ่งจะมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและประสิทธิภาพในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจระยะข้างหน้า โดยอาจมีผลให้เกิดการชะลอการตัดสินใจลงทุนของภาคธุรกิจและการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน เพื่อรอดูความชัดเจนของพัฒนาการทางการเมืองก่อน
นอกจากนี้ ต่างชาติจับตามองความน่าเชื่อถือของสถาบันการเมืองไทย เพราะถือเป็นอีกตัวชี้วัดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ซึ่ง 10 ปีที่ผ่านมาความสามารถการแข่งขันของไทยลดต่ำลง หากกระบวนการทางการเมืองนำไปสู่การเป็นที่ยอมรับของในประเทศและต่างชาติได้ จะช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นดึงดูดการลงทุนต่างประเทศกลับมา
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังมีแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว อีไอซีปรับประมาณการนักท่องเที่ยวปีนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 40.7 ล้านคน จากเดิม 40.2 ล้านคน รวมทั้งการลงทุนก่อสร้างภาครัฐซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการต่อเนื่องที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนมากถึง 760,000 ล้านบาทในปีนี้ หรือคิดเป็นการขยายตัวกว่าร้อยละ 7
สำหรับทิศทางนโยบายการเงิน อีไอซีคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.75 ตลอดทั้งปี 2562 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอมากกว่าที่ กนง.เคยคาด และมีความเสี่ยงด้านต่ำมากขึ้นจากความไม่แน่นอนทั้งจากสงครามการค้า Brexit และความขัดแย้งระหว่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2562 มาอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ส่วนของทิศทางค่าเงินบาทคาดว่าจะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากสิ้นปีที่แล้ว โดย ณ สิ้นปี 2562 จะอยู่ในช่วง 31-32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากการที่ค่าเงินดอลลาร์ฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลงในปีนี้จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย.-สำนักข่าวไทย