กทม.2 เม.ย.-ก.วัฒนธรรม จัดประกวดดนตรีการแสดงพื้นบ้าน ‘รวมศิลป์ แผ่นดินสยาม’ 4 ภูมิภาคเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ส่งเสริมเยาวชนไทยเล่นดนตรี -นาฏศิลป์ -ศิลปการแสดงได้อย่างน้อย1 ชนิด
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ( รมว.วธ.) แถลงว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ร่วมกับ สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดการประกวดดนตรีและการแสดงพื้นบ้าน พ.ศ.2562 ‘รวมศิลป์ แผ่นดินสยาม’ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 2 เมษายน ในฐานะที่ทรงเป็นวิศิษฏศิลปิน และส่งเสริม สืบสานและถ่ายทอดศิลปะการแสดงพื้นบ้านให้กับเด็กและเยาวชน โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศในการประกวดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน
รมว.วัฒนธรรม กล่าวต่อว่า การจัดประกวดดนตรีและการแสดงพื้นบ้านในครั้งนี้กระทรวงฯดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันให้กับเด็กและเยาวชนที่มีทักษะในด้านศิลปะการแสดงอย่างสร้างสรรค์และพัฒนาต่อยอดทักษะทั้งในด้านดนตรีและนาฏศิลป์ไทยจากระดับท้องถิ่น สู่ระดับชาติและนานาชาติ อันนำไปสู่ความภาคภูมิใจในมรดกภูมิปัญญาของชาติและรักษาให้คงอยู่ ทั้งยังเป็นการสร้างชื่อเสียงภาพลักษณ์และเกียรติภูมิของไทยบนเวทีโลก ซึ่งผู้เข้าประกวดดนตรีและการแสดงพื้นบ้าน จะได้แสดงความสามารถตามประเภทที่แข่งขัน โดยการร้อยเรียงดนตรีและการแสดงที่หลากหลาย ในรูปแบบบูรณศิลป์ หรือรวมศิลปะการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น อาทิ ภาคเหนือ เช่นสะล้อ ซอ ซึง ขับซอ เป็นต้น มาสร้างสรรค์การแสดงชุดใหม่ ซึ่งประกอบด้วย บทร้อง ท่ารำ ท่วงทำนอง ที่ไม่เคยใช้ประกวดที่ใดมาก่อน และเสนออัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นได้อย่างชัดเจน
โดยมีเนื้อหาบางช่วงแสดงเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและส่งเสริมวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น ซึ่งจะมีคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเป็นกรรมการตัดสิน ที่สำคัญสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนสามารถเล่นดนตรี นาฏศิลป์และศิลปะการแสดงได้อย่างน้อย 1 ชนิด เพื่อเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทย รวมทั้งส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีความรักและภาคภูมิใจในความเป็นไทย ซึ่งตลอดการจัดงานที่ผ่านมาถือว่าได้สร้างสีสันให้กับวงการศิลปิน ดนตรีพื้นบ้าน ให้กลับมามีชีวิตชีวาและพบว่าศิลปินได้มีการพัฒนารูปแบบการแสดง ใช้เทคโนโลยีมาประกอบการแสดงให้สวยงามยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับการประกวดดนตรีและการแสดงพื้นบ้าน จะจัดประกวดรอบคัดเลือก ใน 4 ประเภท(ภูมิภาค) ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ในช่วงเดือนมีนาคม -เมษายน จากนั้น คณะที่ผ่านรอบคัดเลือกประเภทละ 3คณะ รวม 12 คณะ จะได้เข้าประกวดรอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 30 เมษายน 2562 ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ กรุงเทพมหานคร โดยรางวัลของการประกวดทั้ง 4 ประเภท ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเกียรติบัตร และเงินรางวัล 1 แสนบาท รองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้รับถ้วยเกียรติยศจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมเกียรติบัตร และเงินรางวัล 8 หมื่นบาท รองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้รับถ้วยเกียรติยศจากปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมเกียรติบัตร และเงินรางวัล 6 หมื่นบาท ตามลำดับ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.culture.go.th หรือเฟซบุ๊กกรมส่งเสริมวัฒนธรรม www.facebook.com/DCP.culture .-สำนักข่าวไทย