กฟผ.ผุดโรงไฟฟ้าทดแทนพร้อมพัฒนาแม่เมาะเป็นเมืองอัจฉริยะ

กรุงเทพฯ 30 มี.ค.- กฟผ. ทดสอบเดินเครื่องโครงการโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 4 – 7 เตรียมความพร้อมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ภายในปี 2562
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะโฆษก กฟผ. เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 4 – 7 ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2557 ให้ดำเนินโครงการฯ ด้วยขนาดกำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ ปัจจุบันได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 โดยให้ขยายกำลังการผลิตเป็น 655 เมกะวัตต์แล้ว

 นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ กล่าวต่อว่า  โรงไฟฟ้าทดแทนจะใช้ถ่านหินลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าร่วมกับเทคโนโลยี Ultra – super Critical (USC) ที่มีความทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน โดยใช้ระบบหม้อไอน้ำ (Boiler) ที่ผลิตไอน้ำด้วยอุณหภูมิและแรงดันที่สูงขึ้น การเผาไหม้จึงมีประสิทธิภาพมากขึ้นและใช้ปริมาณเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าลดลงประมาณร้อยละ 20  ส่งผลให้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่น้อยลง เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี Subcritical แบบเดิม นอกจากนี้ ยังติดตั้งเทคโนโลยีกำจัดมลสารที่ทันสมัย ประกอบด้วย อุปกรณ์เครื่องดักจับก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (Selective Catalytic Reduction : SCR)  เครื่องดักจับฝุ่นแบบไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Precipitator : ESP) ที่สามารถกำจัดฝุ่นได้มากกว่า 99.9 % จากนั้นนำมาส่งผ่านเครื่องกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Flue Gas Desulfurisation : FGD) ซึ่งจะมีการพ่นสเปรย์น้ำหินปูนเพื่อกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ และยังให้ผลพลอยได้เป็นการช่วยดักจับฝุ่นที่เหลืออยู่อีกขั้นตอนหนึ่ง โดยจากการทดสอบล่าสุดพบว่าช่วยดักจับฝุ่นในภาพรวมได้ถึง 99.98%  ทั้งนี้ การติดตั้งระบบดังกล่าวช่วยให้การปล่อยมลสารต่างๆ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง โรงไฟฟ้ายังติดตั้งเครื่องควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกรมควบคุมมลพิษแบบ Real Time (ตามเวลาจริง 24 ชั่วโมง) จึงมั่นใจได้ว่ามลสารที่ปล่อยออกมาจากกระบวนการผลิตไฟฟ้าจะมีค่าดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานและไม่เป็นต้นเหตุของการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ดังจะเห็นได้ว่าปัจจุบันค่าฝุ่น PM2.5 ในบริเวณแม่เมาะนั้นมีค่าต่ำกว่าพื้นที่ในจังหวัดใกล้เคียงกัน

นอกจากนี้ กฟผ. ยังได้รับการสนับสนุนจากภาคนโยบาย มอบหมายให้ประสานร่วมมือกับทางจังหวัด และชุมชนชาวแม่เมาะ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาโครงการแม่เมาะเมืองอัจฉริยะ (Mae Moh Smart City) ที่มีการบริหารจัดการด้านพลังงาน และด้านต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เป็นเมืองอัจฉริยะแห่งหนึ่งของประเทศในอนาคต  อาทิ สนับสนุนการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศในการทำเกษตรกรรมเพื่อสร้างรายได้ที่คาดการณ์ได้ สร้างหมู่บ้านป่าไม้ชุมชน รวมถึงใช้ในการบริหารจัดการฝายชุมชน ตลอดจนทดลองใช้ Application รถโดยสารที่สามารถระบุตำแหน่งสถานีชาร์จรถไฟฟ้ากับรถบริการ EGAT EV ของ กฟผ. ร่วมกับการท่องเที่ยวลำปาง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนตลอดเส้นทางจากตัวเมืองมายังแม่เมาะ ซึ่งโครงการแม่เมาะเมืองอัจฉริยะจะช่วยให้ประชาชนในหมู่บ้านแม่เมาะมีสุขภาพดี มีไฟฟ้าใช้ไม่ดับ ป่าไม้ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชม พร้อมมุ่งสู่ศูนย์อาหารชีวภาพและพลังงานสีเขียวอย่างยั่งยืน” โฆษก กฟผ. กล่าว -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้