กทม.28 มี.ค.-วันนี้มีการจัดซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พยุหยาตราสถลมารค เป็นการซ้อมใหญ่รวมทุกหน่วยครั้งสุดท้าย ก่อนลงพื้นที่จริงกลางเดือน เม.ย.โดยมีผู้บัญชาการจากทุกเหล่าทัพเข้าร่วม เผยภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราสถลมารค จัดฝึกซ้อมใหญ่ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พยุหยาตราสถลมารค ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมรวมกำลังพลจากทุกหน่วยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะลงพื้นที่จริงช่วงกลางเดือนเมษายน ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ ภายในกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ที่11 ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (ทม.ร.11 รอ.)
ในการซ้อมวันนี้มีผู้บัญชาการจากทุกเหล่าทัพเข้าร่วม ได้แก่ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.),พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.),พล.ร.อ. ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.),พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.)และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
สำหรับการซ้อมครั้งสุดท้าย จำลองเส้นทางและพื้นที่การฝึกเสมือนจริงเช่น เดิม จำลองการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครยัง 3 วัด คือวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ,วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป้าหมายการซ้อมเพื่อให้กำลังพลได้ทราบเส้นทางจุดที่ริ้วขบวนจะเคลื่อนผ่าน ตั้งแต่พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ภายในพระบรมมหาราชวัง ,บริเวณหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท , ศาลาสหทัยสมาคม รวมทั้งฝึกการเผชิญจุดอุปสรรคคับขันบริเวณช่องทางแคบต่างๆกำหนดเท่าขนาดพื้นที่จริง จำลองประตูภายในพระบรมมหาราชวัง คือประตูวิเศษไชยศรี และประตูพิมานไชยศรี และอีกหนึ่งคือ ถนนตะนาวที่ค่อนข้างแคบต้องมีการปรับแถวขบวนให้สามารถผ่านได้โดยคงไว้ซึ่งความพร้อมเพรียงและแข็งแรงในการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ขณะที่การซ้อมยังเน้นซ้อมการแบกหามพระราชยาน ที่จะมีการเปลี่ยนกำลังพลชุดแบกหามทุกๆ 500 เมตร ซึ่งยังพบอุปสรรคในช่วงการสลับเปลี่ยนชุดพลแบกหามอยู่เล็กน้อย ทางคณะอนุกรรมการฯ ได้ดำเนินการปรับแก้ไขให้เรียบร้อย โดยการเคลื่อนริ้วขบวนกำหนดไว้ที่ 85 ก้าวต่อนาที หรือมีระยะก้าวๆละ 40 เซนติเมตร เพื่อสะดวกต่อการเดินตามจังหวะ
ส่วนบทเพลงที่ใช้ในการเคลื่อนริ้วขบวน ประกอบด้วยเพลงมาร์ชราชวัลลภ,เพลงพระราชนิพนธ์ยามเย็น ,ใกล้รุ่ง,สรรเสริญพระนารายณ์ , มาร์ชธงชัยเฉลิมพล
ขณะที่การฝึกซ้อมการเทียบเกยทั้งการเข้า-การออก ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญ แต่ละจุดมีความแตกต่างกัน เกยบริเวณวัดบวรฯและวัดราชบพิธฯเป็นเกยขวา ส่วนที่วัดพระเชตุพนฯจะใช้การเข้าออกเกยอีกด้านเนื่องจากเป็นบริเวณที่มีถนนตัดผ่านหลายเส้นทางและทางค่อนข้างแคบ กำลังพลจึงต้องฝึกการเข้าเกยให้คุ้นเคย
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เผยว่า ภาพรวมการซ้อมริ้วขบวนฯเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการเก็บรายละเอียดในแต่ละจุดให้งดงาม พร้อมอำนวย การรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางเสด็จ เชิญชวนประชาชนร่วมชมความงดงามในงานพระราชพิธี มีกำหนดเข้าฝึกซ้อมในพื้นที่จริง รวม3 ครั้ง คือ 17,21และ 28 เมษายน สำหรับเส้นทางเสด็จเลียบพระนครในวันที่ 5 พฤษภาคม รวมระยะทางประมาณ7กิโลเมตร ใช้เวลารวมประมาณ 4 ชั่วโมง เริ่มเสด็จฯในเวลา 16.30 น. .-สำนักข่าวไทย