กรุงเทพฯ 26 มี.ค. – ขณะนี้หน้าตาของรัฐบาลยังไม่ชัดเจนนัก 2 พรรคใหญ่ “เพื่อไทย” และ “พลังประชารัฐ” มั่นใจว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ตัวแปรสำคัญอย่างพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับข้อเสนอและเงื่อนไขให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยังไม่ตัดสินใจ
สูตรรัฐบาลใหม่ยังไม่ลงตัว 2 ขั้วเดินหน้าหาพันธมิตร เพื่อรวมเสียงให้ได้ “พลังประชารัฐ” ยึดความชอบธรรมจากคะแนนป๊อปปูลาร์โหวต มีข่าวกระเซ็นกระสายว่าได้เข้าไปคุยกันในค่ายทหารแล้ว แต่ก็ออกมาปฏิเสธ วิเคราะห์กันว่า การตั้งรัฐบาลของพลังประชารัฐ อาจมีงูเห่าที่ถูกดูดจากเพื่อไทยเข้ามาสมทบ ไม่ว่าจะมีข้อเสนออย่างไร แต่ที่ไม่เปลี่ยนใจ คือ นายกรัฐมนตรี ต้องเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น
“เพื่อไทย” ยึดจำนวน ส.ส.ที่ได้มากเป็นอันดับ 1 เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล ลงตัวกับ “อนาคตใหม่” ที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน และมีข่าวว่าได้เสนอเงื่อนไขให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญ แกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนยันไม่มีเงื่อนไข แค่ขอให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหอมหวานที่เสนอ ทำให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล คนที่เนื้อหอมที่สุดในขณะนี้ ต้องขบคิด เพราะหากตอบรับ การบริหารประเทศภายใต้รัฐบาลเสียงส่วนใหญ่ของเพื่อไทยจะเดินหน้าไปอย่างมั่นคงได้หรือไม่ ทำให้ขณะนี้ภูมิใจไทยยังอุบไต๋ นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว แต่เคยบอกไว้ว่าจะร่วมรัฐบาลกับพรรคที่ไม่มีความขัดแย้ง รักประชาชน เทิดทูนสถาบัน และทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง ยึดเรื่องความมั่นคงและเสถียรภาพเป็นหลัก
พลังประชารัฐ-เพื่อไทย ต่างฝ่ายต่างมั่นใจว่ามีเสียงเพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาล ดูแล้วน่าจะยื้อกันอีกนาน สำหรับการตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ที่สำคัญกฎหมายไม่ได้ระบุเงื่อนเวลาว่าจะต้องเลือกนายกรัฐมนตรี หรือตั้งรัฐบาลเสร็จเมื่อใด แต่กำหนดลำดับขั้นตอนไว้ว่า หลังเลือกตั้งจะต้องดำเนินการอะไรบ้าง
เกมการเมืองครั้งนี้มีอะไรที่ต้องติดตามแบบห้ามกะพริบตา เพราะมีโอกาสเกมพลิกได้ทุกเมื่อ แล้วแต่ใครจะชิงไหวพริบแย่งตั้งรัฐบาลได้ก่อนกัน แต่หากตั้งรัฐบาล เลือกนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคต่างๆ ไม่ได้ ยังมีช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 คือ ให้ ส.ส. และ ส.ว. ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งเสนอชื่อนายกฯ คนนอก ให้ความเห็นชอบ เพื่อป้องกันการเมืองถึงทางตัน. – สำนักข่าวไทย