ย้ำจุดยืนพรรคไหนรวมเสียงข้างมากได้ก่อนมีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล

พรรคพลังประชารัฐ 21 มี.ค.-หัวหน้า พปชร. เผยจัดปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายในพื้นที่ กทม.พรุ่งนี้ (22 มี.ค.) ย้ำจุดยืนพรรคไหนรวมเสียงข้างมากได้ก่อนมีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องเป็นเสียงอันดับ 1 เท่านั้น เผยหลังปิดหีบ 24 ชั่วโมง คาดรู้ผลจับมือพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล


นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงว่า ในวันพรุงนี้ (22 มี.ค.) พรรคจะจัดการปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่สนามกีฬาเทพหัสดิน โดยงานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. ภายใต้แนวคิด “เปิดใจประชารัฐรวมใจประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว” โดยการปราศรัยจะมีไปตลอดจนถึงช่วงค่ำ ซึ่งจะเป็นการปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายของพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้จะมีเซอร์ไพรส์อะไรหรือไม่ ขอให้อดใจรอรายละเอียด

ส่วนจะมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มาร่วมหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้มีการกำหนดตายตัว ทั้งนี้ทุกกิจกรรมได้มีแจ้งให้ทราบในฐานะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำคลิปให้ และเราได้นำไปใช้ในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งในเย็นวันนี้ (21 มี.ค.) ที่จังหวัดชลบุรี ก็มีเช่นกัน


นายอุตตม กล่าวอีกว่า การปราศรัยในวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.) พรรคจะใช้เวทีให้เต็มที่ที่สุด เพื่อสื่อสารกับประชาชน เป็นการเปิดใจว่าทำไมพรรคพลังประชารัฐถึงมาอยู่ ณ จุดนี้ พรรคพลังประชารัฐนำเสนอสิ่งใดกับประชาชน และจะเดินหน้าอย่างไร ทั้งนี้เชื่อว่าคำถามเหล่านี้อยู่ในใจของประชาชน ดังนั้นในวันที่ 22 มีนาคมนี้ จะเปิดใจกัน ส่วนเรื่องเอกสารที่มีการหลุดออกมาและใส่ร้ายพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการชี้แจงแล้วว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร กองทัพก็ได้ชี้แจงแล้วจึงไม่เกิดความเป็นห่วง อะไร เพราะพรรคเดินตามกฎกติกา

ส่วนกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีคุณสมบัติที่ถูกต้องที่เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐได้นั้น นายอุตตม กล่าวว่า พรรคเชื่อมั่นมาตั้งแต่ต้นว่าไม่ได้ดำเนินการผิดกฎหมาย แต่การที่ กกต.มีมติในเรื่องนี้ สังคมรับรู้แล้ว ก็เป็นสิ่งที่ดี ยอมรับว่าพรรคสบายใจขึ้น ทั้งนี้ได้ประเมินภาพรวมของพรรคในเวลานี้ ถือว่ากระแสดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ผู้สมัครของเรามีกำลังใจดีขึ้นมาก และยืนยันจะทำอย่างเต็มที่ในช่วงโค้งสุดท้าย

ส่วนกรณีมีการประเมินว่าพรรคอยู่ในลำดับที่ 2 , ที่ 3 ของผลการเลือกตั้ง นายอุตตม กล่าวว่า ขอให้รอดู ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการวิเคราะห์จากกลุ่มหลายองค์กร ตลอดจนโพลต่าง ๆ เราก็รับฟังทั้งหมด แต่สุดท้ายแล้วอยู่ที่พรรคและผู้สนับสนุนพรรค


“มั่นใจในนโยบายของเราว่าสามารถตอบโจทย์ให้กับพี่น้องคนไทย เวลาที่เหลือโค้งสุดท้าย 3 วันว่าผลจะออกมาอย่างไรเร็วเกินไป ที่จะพูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองอื่น เพราะเชื่อว่าหลังปิดหีบในวันที่ 24 มีนาคม ผลออกมาชัดเจนแล้ว การเจรจาอย่างจริงจังมันก็จะเกิดขึ้น ดังนั้นขณะนี้ยังไม่มีการเจรจาอะไร เวลานี้ควรเป็นเวลาที่พรรคเร่งเสนอนโยบายให้ประชาชนตัดสินใจ ไม่ควรสร้างเงื่อนไขในการจัดตั้งรวมรัฐบาลกับใคร เพราะต้องขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งด้วย” นายอุตตม กล่าว

เมื่อถามว่า จุดยืนของพรรคจะให้พรรคที่มีคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า จุดยืนของพรรคคือพรรคใดที่ไปรวบรวมเสียงได้มากที่สุดเกินครึ่ง ซึ่งอาจจะมากกว่า 1 พรรคก็ได้ ก็สมควรที่จะมีสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล

“การเลือกตั้ง คือ การฟังเสียงประชาชนทั้งหมดที่ออกมาใช้สิทธิ์ พรรคต่าง ๆ ก็ได้ฟังเสียงประชาชนที่แตกต่างกัน ถ้าเรายึดหลักการนั้นแล้ว เสียงส่วนใหญ่คือเสียงที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพรรคหรือกลุ่มไหน ถ้าได้เสียงส่วนใหญ่ ถือเป็นการสะท้อนถึงความปราถนาของประชาชนที่จะให้พรรคการเมืองเหล่านั้นได้มีสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน ซึ่งถือเป็นกลไก กติกา พรรคจะเดินตามกระบวนการนั้น” นายอุตตม กล่าว

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะถูกมองว่าเป็นการล็อบบี้ก่อนเลือกตั้ง นายอุตตม กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดถึงเงื่อนไข แต่เรื่องนี้ย้ำมาโดยตลอด แม้แต่พรรคอื่นคนอื่นก็พูดในทำนองเดียวกันว่าเสียงส่วนใหญ่มีสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะใครที่มีเสียงข้างมากย่อมมีโอกาส ซึ่งหากพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เสียงอันดับ 1 ในการรวบรวมเสียงข้างมากจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้อันดับที่ 2 หรือ 3 เพื่อรวบรวมในการจัดตั้งรัฐบาล ขอให้รอผลการเลือกตั้งออกมาก่อน ขอให้รอการเจรจา หากพูดไป จะเข้าข่ายสร้างเงื่อนไข

“เหตุผลที่พรรคการเมืองจะเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ หลักการใหญ่คือขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง พร้อมเคารพกฏกติกา ส่วนพรรคจะพิจารณาว่าพรรคการเมืองใดที่ทำงานร่วมกันได้ ก็ร่วมอุดมการณ์กันหรือนโยบายสอดคล้องกัน และเมื่อเข้ามาร่วมรัฐบาลแล้ว ก็จะสามารถทำงานได้จริง จะเอาสิ่งนี้เป็นตัวตั้ง และปัจจัยที่ทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่อยากให้มองว่าจะนำไปสู่การเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ อยากให้มองเป็นปัจจัยทางบวก พรรคเน้นสิ่งที่เราเสนอให้ประชาชนมากกว่าวาทกรรม ส่วนผลออกมาอย่างไร ต้องเคารพกติกา อย่าสร้างเงื่อนไขให้ดำเนินการเพื่อให้ได้รัฐบาลใหม่แล้วเกิดปัญหา หรือถึงขั้นส่งผลโมฆะ” นายอุตตม กล่าว

นายอุตตม กล่าวอีกว่า หลังปิดหีบเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ คาดว่าภายใน 24 ชั่วโมงจากนั้นจะเห็นภาพเบื้องต้นว่าพรรคไหนจะมีสิทธิ์ในการพูดคุยจับมือทางการเมือง และมีความเป็นไปได้ว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอาจจะมาประกาศตัวที่พรรคส่วนกระแสที่หลายคนกังวลว่าพรรคจะมีงูเห่านั้น ขอยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐไม่มีงูเห่า และพรรคเราก็ไม่กลัวงู.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]