ศธ.19 มี.ค.-รมว.ศึกษาฯ ย้ำครูอนาจารเด็กเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น หากทำผิดทุกคนต้องช่วยกันเปิดโปง ไม่ให้ทำซ้ำ ด้านเลขาฯ กพฐ.เผย หากคู่กรณีที่อ้างว่าใส่ร้าย มีมูลจริง ถือเป็นความผิดวินัย
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีมีการแชร์ข้อความและภาพครูพละชายของโรงเรียนสตรีแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครพฤติกรรมอนาจารนักเรียนหญิงหลายคน ซึ่งขณะนี้ทั้งโรงเรียนและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 1 กรุงเทพมหานคร ได้ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงขึ้น โดยมีการอ้างว่าเหตุดังกล่าวเป็นความขัดแย้งของครูในโรงเรียนและล่าสุดมีกรณีครูสอนภาษาจีน ซึ่งเป็นอดีตครูอัตราจ้างของโรงเรียนดังกล่าวเข้ามอบตัวที่ สน.บางกอกน้อยและรับสารภาพว่ากระทำชำเรานักเรียนหญิงด้วยนั้น ว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานรายละเอียดเรื่องดังกล่าว แต่เรื่องนี้ลักษณะนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ซึ่งถ้าคิดว่า ถ้าเป็นลูกหลานของเราก็ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ทำแบบนี้ ที่ผ่านมามีการกำชับกับสถานศึกษามาตลอดให้คอยดูแลโดยตลอด
นะ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากำชับเรื่องนี้ จนไม่รู้จะกำชับอย่างไรแล้ว อยากให้มองแบบนี้ว่าเรามีครู 4 แสนคนและยังมีครูข้างนอกอีก ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดแล้วต้องเปิดโปงและจัดการให้เด็ดขาด อย่าให้พฤติกรรมเหล่านี้กลายเป็นตัวอย่างไม่ดี ขณะเดียวกัน ในการเปิดโปงเรื่องลักษณะนี้ต้องระมัดระวังโดยเฉพาะสิทธิเด็ก เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ด้านนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า หากตรวจสอบพบว่ามีการกลั่นแกล้งระหว่างกันจริงผู้ที่กลั่นแกล้งบุคคลอื่นนั้นมีความผิดอยู่แล้ว โดยผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และผิดในเรื่องของการทำร้ายชื่อเสียงและสร้างความแตกแยกให้กับราชการด้วยกันซึ่งมีระเบียบกำหนดไว้อยู่แล้วว่าจะลงโทษทางวินัยอย่างไร โดยขึ้นอยู่กับความเสียหายด้วย เช่น หากสร้างความเสียหายให้กับราชการมาก ถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรง และหากสร้างความเสียหายไม่มาก อาจจะถูกตั้งวินัยไม่ร้ายแรง เป็นต้น
ส่วนครูที่อ้างว่าถูกกลั่นแกล้งนั้น จะดำเนินคดีอาญาและดำเนินคดีตามกฎหมายอื่นหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวครูเองว่าจะดำเนินการอย่างไร .-สำนักข่าวไทย