ก.เกษตรฯ ปฏิบัติการเชิงรุกป้องกันและบรรเทาภัยแล้ง

กรุงเทพฯ 15 มี.ค. – กรมฝนหลวงฯ วางแผนปฏบัติการเชิงรุก ทำแผนที่ความต้องการน้ำทั่วประเทศ คาดอีก 2 วันสภาพอากาศจะเอื้ออำนวยมากขึ้น เร่งช่วยเหลือพื้นที่นอกเขตชลประทานที่เริ่มขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค ขณะที่กรมชลประทานแจ้งเตือน 22 จังหวัดทุ่งลุ่มเจ้าพระยา ไม่ให้ทำนาปรังครั้งที่ 2 จะไม่จัดส่งน้ำให้ ยืนยันตามแผนบริหารจัดการน้ำที่วางไว้ น้ำในเขตชลประทานเพียงพอทุกภาคส่วน



นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า ได้วางแผนปฏิบัติการเชิงรุกป้องกันและบรรเทาภัยแล้ง โดยปีนี้รวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำ “แผนที่ความต้องการน้ำ” ซึ่งจะทราบว่าปริมาณน้ำผิวดินทุกพื้นที่ ตลอดจนเกษตรกรเพาะปลูกพืชชนิดใดบ้าง ต้องการน้ำมากน้อยเพียงใดแต่ละห้วงเวลา จึงไม่จำเป็นต้องรอการร้องขอจากประชาชน เกษตรกร หรือหน่วยงานอื่น จึงขึ้นบินปฏิบัติการ แต่สามารถบินปฏิบัติการได้ทันทีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย 


ขณะนี้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทุกภาครวม 9 แห่ง ภาคเหนือเชียงใหม่และพิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุดรธานีและบุรีรัมย์ ภาคกลางนครสวรรค์และกาญจนบุรี ภาคตะวันออกจันทบุรี ภาคใต้อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์และอำเภอหาดใหญ่ สงขลา นอกจากนี้ ยังมีฐานเติมฝนหลวง 4 แห่งที่ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี ระยอง และสระแก้ว ซึ่งการตั้งฐานเติมฝนหลวงนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถปฏิบัติการครอบคลุมพื้นที่ในแต่ละภาคได้มากขึ้น อีกทั้งยังทันต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงเร็วในระยะนี้เช่น หากบินขึ้นปฏิบัติการเพื่อก่อกวน เลี้ยงให้อ้วนแล้ว เมฆก่อตัวดี สามารถบินลงเติมสารฝนหลวงที่ฐานเติมสารที่ใกล้ที่สุด ขึ้นปฏบัติการโจมตีให้เกิดเป็นฝนได้ทันท่วงที

พื้นที่ที่ติดตามอย่างใกล้ชิด คือ อำเภอสอยดาว จันทบุรี และบุรีรัมย์ ซึ่งนอกเขตชลประทานเริ่มขาดน้ำอุปโภค-บริโภค ซึ่ง 2 วันที่ผ่านมาได้ช่วงชิงจังหวะเวลาขึ้นบินปฏิบัติการให้ทันสภาพอากาศ แต่ยังไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร แต่ขณะนี้บริเวณความกดอากาศสูงจากจีนเริ่มแผ่ลงมาแล้วจะปะทะกับอากาศในไทย ทำให้โอกาสเมฆจะก่อตัวขึ้นตามธรรมชาติมีมากขึ้น ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูงขึ้น ตลอดจนดัชนีค่ายกตัวของอากาศเหมาะสม เอื้ออำนวยให้การปฏิบัติการฝนหลวงสัมฤทธิ์ผล ป้องกันและบรรเทาภัยแล้งได้

ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้ในเขตชลประทานยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายของพื้นที่เพาะปลูก สำหรับพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังนั้น ภาคเหนือปลูกเกินแผน 210,000 ไร่ ภาคตะวันออกเกินแผน 40,000 ไร่ และลุ่มเจ้าพระยาเกินแผน  550,000 ไร่ รวม 3 พื้นที่ 800,000 ไร่ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางฝั่งตะวันตก และภาคใต้ปลูกต่ำกว่าแผนรวม 570,000 ไร่ ดังนั้น จึงเกินแผนทั้งประเทศ 230,000 ไร่


นายทองเปลว กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้จะมีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังเกินแผน แต่ในเขตชลประทานไม่มีพื้นที่เสี่ยงที่จะขาดน้ำสามารถบริหารจัดการและจัดสรรน้ำให้จนถึงระยะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งหมด แต่พื้นที่ 22 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา กรมชลประทานได้ทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขอความร่วมมือเกษตรกรงดทำนาปรังครั้งที่ 2 อย่างเด็ดขาด หากทำจะไม่จัดสรรน้ำให้ เนื่องจากต้องสงวนน้ำไว้ให้เพียงพอสำหรับอุปโภค-บริโภค 

“กรมชลประทานยืนยันว่าได้วางแผนบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งไว้ล่วงหน้า ซึ่งพอเพียงต่อการอุปโภค-บริโภค รักษาระบบนิเวศน์ เกษตรกรรรม และอุตสาหกรรม แต่ฤดูกาลเพาะปลูกใหม่นี้ได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทราบว่าจะยังไม่จัดสรรน้ำให้ทำการเกษตร จนกว่ากรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าฤดูฝนจะมาล่าเล็กน้อย จากปกติประกาศเข้าสู่ฤดูฝนประมาณกลางเดือนพฤษภาคม แต่ปี 2562 คาดว่าจะประกาศเข้าสู่ฤดูฝนช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เมื่อกรมอุตุฯ ประกาศเข้าสู่ฤดูฝนแล้วจะส่งน้ำให้พื้นที่ลุ่มเพาะปลูกก่อนตามแผนบริหารจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้งที่ทุ่งบางระกำและ 12 ทุ่งลุ่มเจ้าพระยา ส่วนในที่ดอนขอให้ชะลอการเพาะปลูกจนกว่า ฝนจะตกสม่ำเสมอ” นายทองเปลว กล่าว

นอกจากนี้ ยังจะนำเครื่องจักร-เครื่องมือทั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ รถขุด รถบรรทุก และรถบรรทุกน้ำไปประจำที่ศูนย์รวบรวมที่กำหนดไว้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้พร้อมปฏิบัติงานป้องกันและบรรเทาภัยแล้ง ทั้งนี้ กรมชลประทานสำรองน้ำไว้เผื่อจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม กรณีฝนมาล่าหรือฝนทิ้งช่วงยังคงมีน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภคแน่นอน แต่ขอให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและเป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่เจ้าหน้าที่กรมชลประทานขอความร่วมร่วมมือ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น