ภูมิภาค 15 มี.ค.- ปัญหาที่น่าห่วงและต้องติดตามในช่วงนี้ยังคงเป็นเรื่องมลพิษ โดยเฉพาะที่ภาคเหนือยังคงวิกฤติต่อเนื่อง โดยมหาวิทยาลัยพะเยาประกาศหยุดการเรียนการสอน ระหว่างวันที่ 14-15 มี.ค.นี้ ขณะที่ภาคอีสาน จ.ขอนแก่น และเลย ค่า PM2.5 ก็อยู่ในระดับเกินค่ามาตรฐานเช่นกัน
ภาพมุมสูงของ จ.เชียงราย เห็นได้ชัดว่าบ้านเรือนของประชาชนถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันขาวโพลน โดยที่ อ.แม่สาย เช้านี้วัดค่าได้ 203 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงออกพ่นละอองน้ำไปในอากาศเพื่อชำระล้างหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศ วันละ 2 รอบ เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
ขณะที่ พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) พื้นที่ 1 สั่งการหัวหน้าหน่วยงานเตรียมเข้าพบกับทางการเมียนมา เพื่อหารือร่วมแก้ปัญหาฝุ่นละออง เนื่องจากปัญหาฝุ่นควันเกิดในขณะนี้ ส่วนหนึ่งเป็นฝุ่นควันที่ลอยข้ามพรหมแดนมาจากประเทศเมียนมา
ที่ จ.พะเยา ก็วิกฤติไม่แพ้กัน โดยมหาวิทยาลัยพะเยาออกประกาศหยุดการเรียนการสอน ระหว่างวันที่ 14-15 มีนาคม 2562 หลังจากที่บริเวณมหาวิทยาลัยพะเยา ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันมากขึ้น วัดค่า PM2.5 เช้านี้อยู่ที่ 136 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร พร้อมทั้งแจ้งให้นิสิต นักศึกษา ลดกิจกรรมกลางแจ้ง และลดใช้พื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อหมอกควันและฝุ่นละอองด้วย ตลอดจนประชาสัมพันธ์คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ ต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันมลพิษจากหมอกควัน
มาดูปัญหาหมอควันที่ภาคอีสานกันบ้าง ที่ จ.ขอนแก่น ยังพบมีการเผาอ้อยของเกษตรเกษตรกรหลายพื้นที่ และยังมีไฟป่าเกิดขึ้นหลายจุด ทำให้ปัญหาฝุ่นควันวิกฤติเช่นกัน วัดค่า PM2.5 เช้านี้ได้ 108 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระบุสภาพอากาศที่จ.ขอนแก่น ยังคงถูกความกดอากาศสูงปกคลุมชั้นบรรยากาศ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้มีอากาศร้อนอบอ้าว และไม่มีลมพัดมากนัก จะทำให้ฝุ่นละอองในอากาศจะปกคลุมต่อเนื่อง และมีปริมาณเพิ่มขึ้น แต่หลังวันที่ 17 มีนาคม จ.ขอนแก่น จะได้รับอิทธิพลของการเกิดพายุฤดูร้อน จะทำให้มีการหมุนเวียนของสภาพอากาศ จากนั้นค่าฝุ่นละอองในอากาศจะลดลงอีกครั้ง
ที่ จ.เลย ค่า PM2.5 เช้านี้ก็อยู่ในระดับเกินค่ามาตรฐานเช่นกัน สังเกตได้ว่าประชาชนที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งและขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ เริ่มสวมใส่หน้ากากอนามัยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประชาชนในพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับปัญหา ต้องระมัดระวังและป้องกันตัวเองให้มากขึ้น ด้วยการหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งและสวมใส่หน้ากากอนามัย N95 โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ แน่นหน้าอก คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ หรือมีอาการเมื่อยล้าผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที.-สำนักข่าวไทย