อสมท. 14 มี.ค.- แกนนำพรรคการเมืองชี้ผลการเลือกตั้ง
24 มี.ค.นี้คือคำตอบอนาคตการเมืองไทย โดยประชาชนเป็นผู้ตัดสิน แต่หลายพรรคยังกังวลว่ากฎกติกาหลายอย่างยังเป็นผลพวงจากการสืบทอดอำนาจ
โดยเฉพาะ ส.ว.ที่ตั้งโดย คสช. มีส่วนร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี วอนเคารพเสียงประชาชน เพื่อไม่นำไปสู่ความขัดแย้งของประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่อง 9 MCOT HD จัดเวทีประชันวิสัยทัศน์ (ดีเบต) หัวข้อประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง โดยมีหัวหน้าพรรรคการเมือง
และแกนนำจาก 8 พรรคเข้าร่วม ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายพงษ์เทพ
เทพกาญจนา กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา
ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย โดยมีนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเข้าร่วมฟังการดีเบต
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงอนาคตการเมืองหลังการเลือกตั้ง หลังประกาศจุดยืนไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย ว่า การพูดของตนเป็นการประกาศจุดยืนของพรรค
ซึ่งถือเป็นเรื่องที่พึงกระทำในฐานะพรรคการเมืองที่บอกกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ส่วนผลจะเป็นอย่างไร ให้ประชาชนตัดสิน ไม่มีการกำหนดล่วงหน้า พรรคจึงเสนอทางเลือกคือประชาธิปไตยสุจริต
อยากให้ประเทศเดินหน้า ไม่ควรปล่อยให้เกิดความขัดแย้ง หากหลังเลือกตั้งแล้วปล่อยให้ ส.ว.เป็นคนกำหนดอนาคตประเทศ
อีกทั้ง เส้นทางที่ พล.อ.ประยุทธ์เลือกจะนำไปสู่ความขัดแย้งได้
พรรคจึงประกาศให้เกิดความชัดเจน ส่วนของพรรคเพื่อไทยก็ประกาศไม่ร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์
เพราะอุดมการณ์ หรือแนวทางการเมืองไม่ตรงกัน
“แต่ถ้าประชาชนเลือก แล้วไม่มีใครได้เสียงข้างมาก
ก็ค่อยมาว่ากัน แต่สิ่งสำคัญคือมีประเด็นของการสืบทอดอำนาจหรือไม่ หากไม่มีตรงนี้
ก็สามารถทำงานร่วมกับพรรคพลังประชารัฐได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ด้านนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย
กล่าวว่าพรรคไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดอำนาจ หากประชาชนให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย
ก็จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่การเมืองไทยแม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่กลไกที่วางไว้ตามรัฐธรรมนูญก็ยังสืบทอดอำนาจอยู่ คนที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
และองค์กรอิสระทั้งหลายก็ได้รับความเห็นชอบจาก สนช.ที่ได้รับการแต่งตั้งโดย คสช. ดังนั้นการสืบอำนาจยังมีอยู่หลังเลือกตั้ง
ฉะนั้นประชาธิปไตยจะสุจริตได้ ประชาชนต้องมีส่วนร่วมอย่างมาก
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย
กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่สืบทอดอำนาจ แต่พรรคการเมืองอื่นมาตามระบบ และเชื่อว่าถ้าพรรคอื่นชนะการเลือกตั้ง
อาจมีคนออกนอกประเทศ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
กล่าวถึงอนาคตประเทศไทยหลังเลือกตั้ง ว่าถ้าดูรัฐธรรมนูญปี 2560 จะเห็นว่าอำนาจฝ่ายบริหารมีน้อย
อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติมีมากกว่า ซึ่งจะสะท้อนภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ที่มีอำนาจของคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งกับอำนาจของคนกลุ่มหนึ่งที่มาจากการเลือกตั้ง
หากเป็นเช่นนี้การเมืองไทยจะย้อนกลับไปเหมือนปี 2521
คือรัฐประหารครั้งเดียวทำประเทศไทยถอยหลังไป 20 ปี ซึ่งหากฝ่ายที่สืบทอดอำนาจของ คสช.ชนะ
จะได้ฝ่ายสืบทอดอำนาจสวมเสื้อประชาธิปไตย แต่หากฝ่ายที่สืบทอดอำนาจแพ้
จะเปิดประตูสู่ประชาธิปไตย และต้องเริ่มจากการแก้รัฐธรรมนูญ และสร้างคนทุกสีเสื้อให้เชี่อมั่นในระบบรัฐสภา
ตรวจสอบถ่วงดุลกันได้
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา
กล่าวว่า การเมืองคือการอาสาตัว คนตัดสินคือประชาชน ดังนั้นไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร
จะต้องยอมรับ
ซึ่งครั้งนี้ตนคิดว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่มีคำตอบชัดเจนที่สุดมากกว่าทุกครั้ง มีการเตรียมตัวมากกว่าทุกครั้ง
เพราะเลื่อนมาหลายครั้ง และทุกคะแนนมีความหมาย และตนจะตัดสินใจอะไรทางการเมือง
ก็จะยึดผลการเลือกตั้งในครั้งนี้
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ มองว่า
หลังจากนี้การเมืองมีปัญหาแน่นอน
เพราะได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ
รวมถึงกติกาในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ให้ ส.ว.250 คน ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
อยากให้คนไทยทุกคนตระหนัก ยืนยันอยู่ฝั่งประชาธิปไตย
และเห็นว่าควรแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนาและกล่าวว่า การเมืองหลังการเลือกตั้งจะต้องดีขึ้น
อยากเห็นการเดินไปข้างหน้า นำเสนอนโยบาย
กติกาของรัฐธรรมนูญ 60 ทำให้พรรคการเมืองไม่สามารถคาดเดาผลการเลือกตั้งได้ โดยเฉพาะการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง
ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่มีผลกับการให้ใบเหลือง ใบแดง และคนร่างกติกาเองก็ไม่สามารถคาดเดาได้
วันนี้หลายคนเป็นห่วงเรื่อง ส.ว.250 คน ที่มีส่วนเลือกนายกรัฐมนตรี
แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหาร ดังนั้นควรแก้ไขรัฐธรรรมนูญ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย
กล่าวว่าการเมืองภายหลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรนั้น ผลการเลือกตั้งวันที่ 24
มีนาคม 2562 จะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย เพราะประชาชนเป็นผู้ตัดสิน.- สำนักข่าวไทย