พรรคการเมืองเสนอนโยบายให้สื่อดูแล-ตรวจสอบกันเอง

สมาคมนักข่าวฯ 14 มี.ค.-นักการเมืองหลายพรรคเสนอนโยบายให้สื่อดูแลกำกับและตรวจสอบกันเอง เชื่อหลังเลือกตั้ง สถานการณ์สื่อดีขึ้น


สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเวทีเสวนา “รับฟังนโยบายพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชน” โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า สถานการณ์สื่อตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์แบ่งสีเสื้อ ซึ่งทำให้เห็นสื่อที่แสดงตัวตนชัดเจน บางส่วนก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ประชาชนจะได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารในเชิงที่ลึกขึ้น แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้เกิดการตรวจสอบมากขึ้น ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่มีการตรวจสอบกันมากขึ้น อีกทั้งการตรวจสอบยังใช้เวลาอันรวดเร็ว ในขณะที่โลกของสื่อมวลชนเปิดกว้างมากขึ้น แต่บางส่วนยังถูกปิดไปด้วยคำสั่งของคณะรัฐประหาร

ขณะที่นายบุญยอด สุขถิ่นไทย จากพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำว่า สื่อมวลชนต้องทำหน้าที่เพื่อสังคม ปัญหาของสื่อมวลชนในขณะนี้ เริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงและการรับรู้ของคนในสังคมที่ไม่รับรู้ข่าวสารจากสื่อเดิม ๆ อีกต่อไป ทำให้เกิดคนที่จะเป็นสื่อได้ง่ายขึ้น ประชาชนทั่วไปกลายเป็นนักข่าวและเป็นผู้ส่งสารได้ง่ายกว่าเดิม แต่โจทย์ใหญ่ คือ เรารู้ทันข่าวสารหรือไม่ เพราะสื่อในปัจจุบัน มีทั้งการเผยแพร่ภาพโป๊ คำหยาบคาย การบิดเบือนข้อเท็จจริงเกิดขึ้นในสังคม แต่เชื่อว่าหลังจากมีรัฐบาลแล้วคงสามารถพูดถึงสิทธิและเสรีภาพของสื่อได้ชัดเจนมากขึ้น ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่แทรกแซงสื่อมวลชนและไม่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล ก็จะไม่ใช่คนกำกับสื่อ แต่จะเป็นผู้ให้การสนับสนุน เพื่อให้ทุกวิชาชีพเติบโตได้ด้วยตนเองและสามารถตรวจสอบด้วยตนเองได้


ด้านนายสัมพันธ์ แป้นพัฒน์ ตัวแทนจากพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เมื่อมองภาพการเมืองหลังการเลือกตั้ง เชื่อว่าทุกคนเห็นตรงกันว่ารัฐบาลใหม่อยู่ได้ไม่นาน ดังนั้นสิ่งใดที่สื่อมองว่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วน ก็ต้องกระตุ้นให้นักการเมืองตื่นตัวและผลักดันให้เป็นเรื่องเร่งด่วน ส่วนการกำกับดูแลกันเองนั้น สื่อมวลชนก็ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าจะสามารถกำกับดูแลกันเองได้หรือไม่ ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนามีนโยบายเป็นภาพกว้างให้องค์กรที่อยากดูแลกันเองได้ให้สามารถดูแลกำกับกันเอง ยอมรับว่าพรรคชาติไทยพัฒนาคงไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่หากร่วมรัฐบาลและพรรคการเมืองใดจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเป็นอิสระ ก็พร้อมที่จะสนับสนุน

น.ส.พรรณิการ์ วานิช พรรคอนาคตใหม่ มองว่าขณะนี้สื่อมวลชนต้องเผชิญกับความท้าทาย 4 ประเด็น ได้แก่ 1.พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป 2.เศรษฐกิจ 3.การเมือง 4.คำว่าจรรยาบรรณและจริยธรรม โดยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ดิจิตอล โซเชียลมีเดียกำลังเริ่มเบ่งบาน การมีเฟซบุ๊คไลฟ์เปลี่ยนโฉมหน้าของสื่อ ทำให้ทุกคนเป็นสื่อและสามารถรายงานสดได้ทันที อีกทั้งยังให้คนสามารถคอมเม้นต์สื่อสารได้สองทาง นับว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประชาธิปไตย การบริโภคของคนไทยมีทางเลือกมากขึ้น 

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนความท้าทายด้านเศรษฐกิจนั้น จะเห็นได้ว่าการประมูลทีวีดิจิตอลเกิดขึ้นใกล้กับช่วงที่มีการรัฐประหาร จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านที่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจมหาศาล แทบไม่มีทีวีช่องใดที่มีกำไร เห็นการเลย์ออฟและการเออร์รี่ ในขณะที่สภาพการเมืองก็ไม่ปกติ เกิดการแข่งขันเรียกเรทติ้ง ขณะเดียวกันทำให้ผู้สื่อข่าวท้อแท้ เพราะไม่สามารถทำข่าวที่มีคุณภาพได้ในเวลาที่จำกัด 


น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า สำหรับความท้าทายทางด้านการเมือง พบว่าสถิติตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน มีการลงดาบสื่อไปแล้ว 59 ครั้ง โดยอาศัยหลักเกณฑ์คำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นการใช้เครื่องมือปิดปากสื่อและไม่มีเส้นแบ่งชัดเจนว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ สื่อไม่ทราบว่าสิ่งใดจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดการเซ็นเซอร์ตัวเอง สื่อยอมละทิ้งหน้าที่ของตัวเองเพื่อป้องกันปัญหาการถูกปิดช่องแล้วทำให้สูญเสียเงินมหาศาล นี่จึงเป็นความเจ็บปวดที่สุดที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ และยังไม่มีทางออกจนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ส่วนความท้าทายของคำว่าจรรยาบรรณและจริยธรรมอยู่ตรงไหน และทั้งสองคำ คือ คำ ๆเดียวกันหรือไม่นั้น ส่วนตัวเห็นว่าควรใช้คำว่าจรรยาบรรณของสื่อ คือสะท้อนว่าผู้ที่ทำหน้าที่สื่อสารมวลชนจะต้องมีหน้าที่ทำอะไร ทำอย่างไร ภายใต้ขอบเขตใด ส่วนการตรวจสอบกันเองนั้น มองว่าสื่อไม่จำเป็นต้องตรวจสอบกันเอง แต่ให้ประชาชนเป็นผู้ตรวจสอบจะดีกว่า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

เรียกสอบวิศวกรตึกถล่ม

เริ่มแล้ว! ดีเอสไอ เรียกสอบชุดแรก 10 วิศวกร ตัวแทนอิตาเลียนไทย

เริ่มแล้ว! พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ เรียก 10 วิศวกร และตัวแทนจาก บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เข้าให้ปากคำชุดแรก คดีตึก สตง.หลังใหม่ถล่ม

people at Saint Peter's Square

ประชุมลับเลือกโป๊ปองค์ใหม่ 7 พ.ค.

สำนักวาติกัน 29 เม.ย.- ที่ประชุมพระคาร์ดินัลกำหนดให้วันที่ 7 พฤษภาคม เป็นวันเริ่มต้นการประชุมลับในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หรือที่เรียกว่า คอนเคลฟ (conclave) เมื่อวานนี้ พระคาร์ดินัลจากทั่วโลกประชุมกันที่โบสถ์น้อยซิสทีน ในพระราชวังพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่สมัยคริสต์ทศวรรษที่ 16 ภายในนครรัฐวาติกัน โดยปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชม เป็นการประชุมครั้งแรกหลังพิธีฝังพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เพื่อหารือเรื่องกำหนดวันประชุมลับในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หรือที่เรียกว่า คอนเคลฟ (conclave) ที่ประชุมตกลงให้วันที่ 7 พฤษภาคมเป็นวันเริ่มต้นการประชุมลับเพื่อเลือกโป๊ปองค์ต่อไป ตามปกติแล้ว คอนเคลฟจะเกิดขึ้นหลังจากผ่านพ้นวันสิ้นพระชนม์ 15-20 วัน จึงจะไม่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 6 พ.ค. สำหรับคอนเคลฟ 2 ครั้งที่ผ่านมา คือ ปี 2548 และ 2556 กินเวลา 2 วัน ส่วนค่าเฉลี่ยของคอนเคลฟ 10 ครั้งหลังสุดคือ 3 วัน โดยในคอนเคลฟครั้งนี้ จะมีในพระคาร์ดินัล 135 รูปที่มีอายุต่ำกว่า 80 ปี จะได้ร่วมประชุมลับและลงคะแนน […]

ราคาไข่ไก่พุ่งไม่หยุด เจ้าของร้านขนมไทยโอด ต้นทุนสูง กำไรลด

พุ่งไม่หยุด! ไข่ไก่ปรับขึ้นอีก ถือเป็นการปรับราคาครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือน กระทบการค้าที่ใช้ไข่ไก่เป็นวัตถุดิบ เจ้าของร้านขายขนมไทย โอดต้นทุนสูง กำไรลด กำลังซื้อหดหาย แทบอยู่ไม่ได้

นายกฯ สวมเสื้อศรีโคตรบูร สักการะพญาศรีสัตตนาคราช

นายกฯ สวมเสื้อศรีโคตรบูร เผยอาการป่วยดีขึ้นแล้ว ก่อนสักการะพญาศรีสัตตนาคราช พร้อมจุดเรือไฟบก ผลักดันสู่ประเพณีไหลเรือไฟโลก ด้านประชาชนตะโกน ขอบคุณที่มานครพนม