fbpx

วิเคราะห์ที่นั่ง ส.ส.-แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

กทม. 13 มี.ค.-เหลือเวลาอีกเพียง 10 วัน จะถึงวันตัดสินอนาคตการเมืองไทย ซึ่ง ณ วันนี้ ในมุมมองของนักวิชาการวิเคราะห์แนวโน้มที่นั่ง ส.ส. รวมถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเป็นไปในทิศทางใด ติดตามจากรายงาน


เรียกได้ว่าใกล้เข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งแล้ว โพลหลายสำนักออกมาไปในทิศทางเดียวกัน ที่มองว่าพรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ จะมีก็เพียง “สังศิตโพล” ที่ผลสำรวจออกมาว่าพลังประชารัฐ คะแนนนิยมมาเป็นอันดับ 1 ส่วนประชาธิปัตย์ และเพื่อไทย ที่มาเป็นอันดับ 2 และ 3 คะแนนนิยมใกล้เคียงกัน ซึ่งคะแนนของเพื่อไทยที่หายไปก็ไปเทให้กับพรรคพันธมิตร  

อาจารย์สติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการผู้ชำนาญการ สถาบันพระปกเกล้า มองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนเน้นการเลือกตัวบุคคลมากกว่าพรรคการเมือง ประเมินตัวเลขที่ ส.ส.แบบแบ่งเขตของ 3 พรรคขั้วการเมืองใหญ่ เพื่อไทย ที่อาจได้ถึง 180 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 80-90 ที่นั่ง พลังประชารัฐ 60-80 ที่นั่ง


แต่ยากที่จะประเมินคะแนนเสียงแต่ละพรรคที่มีผลต่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แม้พลังประชารัฐมีแนวโน้มจะชนะเลือกตั้ง ส.ส.แบบเขตน้อยกว่า แต่ผู้สมัครที่แพ้ในแบบเขตจะมีคะแนนสูง ส่งผลให้มีโอกาสได้ที่นั่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ในสัดส่วนที่มาก อาจได้ถึง 50-70 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ที่มีฐานเสียงมากใน กทม. และภาคใต้ อาจได้ 20-30 ที่นั่ง ขณะที่เพื่อไทย อาจได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ไม่เกิน 5 ที่นั่ง แต่เพื่อไทยยังมีพรรคพันธมิตรอย่างอนาคตใหม่ เสรีรวมไทย ที่น่าจะได้คะแนนเสียง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จากการชูแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี  

อาจารย์สติธร วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้ง โดยเรียงลำดับจากพรรคที่คาดว่าจะได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. ในสภามากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย อนาคตใหม่ นั่นหมายความว่าจะมีผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีทั้งหมด 7 คน  

หากคะแนนเสียงมีความใกล้เคียงกัน อาจเห็นการจับมือของขั้วการเมืองพลังประชารัฐกับประชาธิปัตย์ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล สู้กับเพื่อไทย ที่มีอนาคตใหม่เป็นพรรคพันธมิตร แต่ถ้าหากจำนวนที่นั่ง ส.ส.ในสภายังใกล้เคียงกัน พรรคเก่าแก่ขนาดกลางอย่างภูมิใจไทย ที่คาดว่าน่าจะได้ ส.ส. 25-40 ที่นั่ง  อาจเป็นตัวแปรสำคัญ และหากภูมิใจไทยผนึกกำลังกับชาติไทยพัฒนา และชาติพัฒนา ซึ่งคาดว่าทั้ง 3 พรรค จะมี ส.ส. ทั้ง 2 ระบบรวม 40-50 ที่นั่ง ก็น่าจะเปลี่ยนขั้วรัฐบาลได้ และเมื่อถึงเวลานั้น แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่อาจถูกเสนอชื่อ 7 คน ก็อาจเหลือเพียง 2 คน เพื่อชิงเก้าอี้ผู้นำสูงสุดในการบริหารประเทศ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

แพทย์ห่วง ด.ต.ปิยนันท์ มีเลือดคั่งในสมอง

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขอบคุณประชาชน เปิดทางเคลื่อนย้าย ด.ต.ปิยนันท์ รักษา รพ.ตำรวจ ขณะที่แพทย์รับห่วง พบยังมีเลือดคั่งในสมอง เตรียมผ่าตัดสมองซ้ำนำเลือดที่คั่งออก

สั่งปิดชั่วคราว โรงงานน้ำแข็งบางละมุง แอมโมเนียรั่ว

อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี สั่งโรงงานน้ำแข็งที่แอมโมเนียรั่ว หยุดกิจการชั่วคราว เพื่อปรับปรุงแก้ไข คาดสารรั่วไหลจากท่อที่ชำรุด เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการระเบิด

นายกฯ บอกไม่มี รมต.ถามข่าวปรับ ครม.

นายกฯ บอก ไม่มี รมต.ถามข่าวปรับ ครม.ในที่ประชุม ย้ำวัคซีนที่ดีที่สุด คือวัคซีนการทำงาน ไม่ปิดทางนั่งคุมกลาโหม ชี้ทุกอย่างอยู่ที่เงื่อนเวลา โยนถามหัวหน้าเพื่อไทย ปมยึดคืนเก้าอี้ประธานสภา

สอท.ลุยจับ-อายัดทรัพย์ อาชญากรข้ามชาติ เงินหมุนเวียน 3 หมื่นล้าน

ตำรวจไซเบอร์ ลุยจับอาชญากรข้ามชาติ หลอกลงทุน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ เงินหมุนเวียนสูงถึง 30,000 ล้านบาท/ปี อายัดทรัพย์ได้กว่า 250 ล้าน