“พล.อ.ประวิตร” เร่งบูรณาการ CCTV เตรียมรับงานสำคัญปีนี้

ทำเนียบฯ 13มี.ค.- “พล.อ.ประวิตร” เร่งบูรณาการ CCTV เตรียมพร้อมรับงานสำคัญปีนี้ ลั่นหากเกิดเหตุ แล้วอ้างกล้อง CCTV เสีย หน่วยในพื้นที่ต้องรับผิดชอบ สั่ง DE ทำแผนบูรณาการข้อมูลเชื่อม CCTV ทั่วประเทศ เสนอ สมช.ภายใน 2 เดือน


พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลง ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารการบูรณาการแผน และระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทั่วประเทศ วันนี้ (13 มี.ค.)  มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า การบูรณาการกล้อง CCTV ทั่วประเทศ เป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อสร้างงานยุติธรรม ให้เกิดความโปร่งใส ป้องปรามการก่อเหตุต่างๆ เห็นได้จากที่ผ่านมากล้องวงจรปิดเป็นส่วนสำคัญในการจับกุมผู้ก่อเหตุในหลายเหตุการ 

พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า  ขณะนี้ได้ให้หน่วยงานราชการต่างๆ ไปสำรวจกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ ว่าใช้การได้หรือไม่ และให้ติดตั้งเพิ่มเติมในพื้นที่ที่ยังไม่เพียงพอ และกล้องวงจรปิดที่มีส่วนใหญ่เป็นของกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงเร่งรัดให้ 2 หน่วยงานไปดำเนินงาน อีกทั้ง ยังให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) จัดทำแผนบูรณาการข้อมูลเชื่อมโยง CCTV ของหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเสนอสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ภายใน 2 เดือน 


พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า  เบื้องต้นจะมีการตั้งศูนย์บูรณาการในส่วนกลาง มี กระทรวงมหาดไทย สตช. และ DE เป็นเจ้าภาพร่วมกัน และจะจัดตั้งศูนย์บูรณาการในพื้นที่แต่ละจังหวัด โดยพื้นที่กรุงเทพฯ จะให้ กทม.เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดให้ผู้ว่าราขการจังหวัดแต่ละจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ 

“พล.อ.ประวิตร ได้ติติงหน่วยงานต่างๆ ที่ทำการสำรวจกล้องวงจรปิดล่าช้า ทำให้ได้ข้อมูลไม่เป็นปัจจุบัน  และเน้นย้ำว่า ปีนี้ มีพระราชพิธีสำคัญ รวมถึงไทยยังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอาเซียน และมีการเลือกตั้ง จึงขอให้เร่งรัดดำเนินการในส่วนนี้  หลังจากนี้ถ้ามีเหตุอะไรขึ้นแล้ว อ้างว่ากล้อง CCTV เสีย หัวหน้าหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ดังกล่าวต้องรับผิดชอบ เพราะถือว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญ จึงต้องให้ความร่วมมือ และยังจะประสานภาคเอกชนในการเชื่อมโยงข้อมูลกล้อง CCTV ด้วย” พล.ท.คงชีพ กล่าว . – สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย