น่าน 4 มี.ค.- แม่ทัพน้อยภาคที่ 3 ติดตามปัญหาไฟป่า-หมอกควันจังหวัดน่าน บูรณาการแก้ไขทุกมิติ รวมถึงเน้นรณรงค์จิตสำนึกให้ตระหนักถึงผลกระทบของไฟป่า หลังพบการลักลอบเผาเตรียมพื้นที่การเกษตร และหาของป่า หากพื้นที่ใดดำเนินการแล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือให้ขยับมาตรการเข้มขึ้น
วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการมณฑลที่ 38 ค่ายสุริยพงษ์ จ.น่าน พล.ท.สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 ประชุมร่วมกับ พล.ต.ดุษิต ปุระเสาร์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 นายนิทรรศ เวชวินิจ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน หน่วยควบคุมไฟป่า เครือข่ายเสือไฟ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจาก 15 อำเภอ ประชุมขับเคลื่อนการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลปรับแผนรองรับสถานการณ์ไฟป่าที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ ซึ่งสถานการณ์ไฟไหม้ป่าและหมอกควันไฟในจังหวัดน่านปีนี้ นับตั้งแต่เดือนมกราคม-3 มีนาคม พบจุดความร้อน 385 จุด ทั้ง 15 อำเภอ โดย 4 อำเภอ เกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนและป่าอนุรักษ์บ่อยครั้ง ได้แก่ เวียงสา ทุ่งช้าง ปัว และนาน้อย สาเหตุหลักมาจากการเผาทำลายขยะทางการเกษตรอย่าง เปลือกและซังข้าวโพด เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก รวมทั้งลักลอบเผาป่าเพื่อหาของป่า อาทิ ผักหวาน และเห็ดเผาะ โดยพื้นที่ป่าได้รับความเสียหายไปแล้วกว่า 2,000 ไร่
พล.ท.สุภโชค กล่าวว่า ที่ผ่านมาใช้กลไกประชารัฐให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมมือกันแก้ปัญหา มุ่งเน้นการรณรงค์สร้างจิตสำนึก เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากประชาชน อย่างไรก็ตาม ยังพบปัญหาชุมชนบนพื้นที่สูงมีความจำเป็นต้องเพาะปลูกเพื่อเลี้ยงชีพ บางส่วนทำไร่เลื่อนลอย ดังนั้น จะต้องเร่งหาทางแก้ไขเพื่อหาทางออกให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของประชาชนในแต่ละพื้นที่ รวมถึงการลักลอบเผาป่าเพื่อหาของป่ามาสร้างรายได้ โดยจะให้แต่ละพื้นที่พิจารณาตามความเหมาะสม หากขอความร่วมมือแล้วยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไฟป่าได้ อาจจะต้องประกาศปิดป่าเพื่อควบคุมบุคคลเข้า-ออก รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ฝ่าฝืนในช่วงประกาศห้ามเผา.-สำนักข่าวไทย