เอาจริง!!กลุ่มหรือบุคคลเผยแพร่ข่าวปลอม”ผบ.ตร.”สั่งทุก บ/ช สืบสวนหาข่าวเชิงลึก

กรุงเทพฯ 1 มี.ค.- ผบ.ตจร.กำชับทุก บช.สืบสวนหาข่าวเชิงลึก กลุ่มบุคคลโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จหรือเผยแพร่ข่าวปลอม(Fake News )หวังสร้างสถานการณ์เลวร้ายต่อสังคม หากพบจับดำเนินคดีทันที


พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ  รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.และ รมว.กห. ได้สั่งการให้หน่วยงานความมั่นคง ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจและทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง คุมเข้มติดตามและตรวจสอบการให้ข้อมูลข่าวปลอม ( Fake News ) ที่มีแพร่กระจายข่าวสารในสังคมออนไลน์มากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบในเชิงลบกับสังคม และสร้างความแตกตื่นกับประชาชน รวมทั้งยังเป็นการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของบุคคล องค์กร และประเทศ  โดยเฉพาะห้วงการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังมีขึ้น นั้น

 พล.ต.อ.จักรทิพย์   ชัยจินดา  ผบ.ตร.  ได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องและกำชับทุกกองบัญชาการในสังกัด รวมทั้งหน่วยงานด้านการข่าว  หน่วยงานปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี   โดยทำการบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง   มีแผนการปฏิบัติอย่างชัดเจน   ทำการสืบสวนหาข่าว แสวงหาข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน ตลอดจนทำการตรวจสอบเชิงลึก ถึงที่มาและความเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องและไม่ประสงค์ดีต่อสังคมและประเทศชาติ   โดยการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยการบิดเบือนและให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ  ตัดต่อภาพและข้อมูลหวังให้สังคมเข้าใจผิด   เพื่อหวังผลสร้างสถานการณ์ต่างๆ   ซึ่งหากผลการสืบสวนสอบสวนตรวจแล้วพบถึงการกระทำความผิด   สำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยบังคับใช้กฎหมายก็จะดำเนินคดีตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม    พร้อมทั้งทำการขยายผลพิสูจน์ทราบถึงตัวบุคคล  กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป   


รอง โฆษก ตร.  กล่าวต่ออีกว่า   ขอฝากเตือนไปยังประชาชนใช้สื่อสังคมออนไลน์ หรือ เสพโซลเชียล  ควรใช้ความารอบครอบและมีสติ  ในการรับข้อมูลข่าวสาร  อย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่ไม่ประสงค์ดี หรือ หลอกลวง    ควรมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้ดี  ก่อนจะทำการโพส หรือแชร์  กดไลท์   ดังเช่นตัวอย่างของการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จกรณี โพสแจ้งว่า ตร. แจ้งยกเลิกเบอร์โทรหมายเลข 191  ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด  ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินดคีกับผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมายมาโดยตลอด      

พร้อมกันนี้ขอฝากไปยังประชาชนหรือผู้ที่พบเห็นการกระทำความผิด หรือมีข้อมูลเบาะแส สามารถแจ้งมาได้ที่  กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)  ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อาคาร B ชั้น 4 ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. 10210  เบอร์โทร  02-142-2556 ,  02-142-2557  อีเมลล์  tcsdstaff@police.go.th  หรือเบอร์โทร 1599  ได้ตลอด  24 ชม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

สงกรานต์เชียงใหม่ชุ่มฉ่ำทั้งเมือง

ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือสงกรานต์ล้านนา วันนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสันวัฒนธรรมและเหล่าสาวงาม ขณะที่การเล่นน้ำสงกรานต์ก็ชุ่มฉ่ำไปทั้งเมือง โดยเฉพาะรอบคูเมือง และอุโมงค์น้ำแห่งแสงสีเสียง ที่ถนนท่าแพ ยิ่งค่ำยิ่งคึกคัก

สงกรานต์ภูเก็ตคึกคัก คาดสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 8,200 ล้าน

บรรยากาศสงกรานต์ที่ จ.ภูเก็ต ปีนี้สุดคึกคัก นักท่องเที่ยวสนุกกันสุดเหวี่ยงตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา และคาดว่าบรรยากาศแห่งความสนุกสนานนี้จะยังคงดำเนินต่อเนื่องไปแบบข้ามวันข้ามคืน