ผู้ต้องหาคดีออกเอกสารสิทธิมิชอบผูกคอในห้องขังดีเอสไอ

ดีเอสไอ 30 ส.ค.- อธิบดีดีเอสไอ เผยผู้ต้องหาคดีออกเอกสารสิทธิมิชอบหลายแปลงในพื้นที่ จ.ภูเก็ต-พังงา ผูกคอในห้องขังดีเอสไอและเสียชีวิต หลังหลบหนีและถูกจับได้ที่ จ.นนทบุรี


พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า นายธวัชชัย อนุกูล อายุ 66 ปี อดีตเจ้าพนักงานที่ดินพังงา สาขาท้ายเหมือง ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวคดีออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบหลายแปลงใน จ.ภูเก็ต และ จ.พังงา ซึ่งหลบหนีคดีจากพื้นที่มาพักอาศัยในย่านนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษได้เฝ้าสืบสวนสะกดรอยจนสามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา และนำตัวมาควบคุมไว้ที่ห้องควบคุมตัวชั้น 6 ได้ใช้เสื้อผูกคอกับลูกกรงฆ่าตัวตาย เพื่อหลบหนีความผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่เวรที่พบได้พยายามเข้าช่วยเหลือปั๊มหัวใจและนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

เบื้องต้นคาดว่า อาจมีสาเหตุจากความเครียด เนื่องจากมีหมายจับหลายคดี และมีคดีที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกทั้งยังอยู่ระหว่างถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบทรัพย์สิน สำหรับพฤติการณ์ของนายธวัชชัย พบกระทำผิดฐานทุจริตออกเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และพังงา จำนวนนับพันไร่


ทั้งนี้ กรณีที่ผู้ต้องหาเสียชีวิตระหว่างการคุมตัวของเจ้าหน้าที่จะต้องมีการชันสูตรพลิกศพตามกฎหมาย และแจ้งให้ญาติผู้เสียชีวิตเข้ามารับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป ส่วนคดีอาญาในทางกฎหมายจะยุติ เพราะผู้ต้องหาเสียชีวิต ขณะที่ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด จะต้องดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมวันนี้ (30 ส.ค.) เวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวนนัดส่งตัวนายธวัชชัยฝากขังกับศาลอาญา แต่เกิดเหตุนายธวัชชัยฆ่าตัวตาย ซึ่งดีเอสไอเตรียมแถลงข่าวในเวลาประมาณ 12.00 น.

สำหรับนายธวัชชัย มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 79/164 หมู่ที่ 7 ต.ฉลอง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1165/2559 ลงวันที่ 14 มิ.ย.2559 ได้ที่บริเวณหน้าร้านตัดผม เลขที่ 61/55 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และถูกแจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 คดีทุจริตออกโฉนดที่ดินบริเวณหาดลายัน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยนายธวัชชัย ถือเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบมากที่สุดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พังงา และสุราษฎร์ธานี และแปลงที่ดินบริเวณเขาหน้ายักษ์ทับซ้อนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง จำนวน 500 ไร่ ราคาประเมินของกรมที่ดิน ไร่ละ 21 ล้านบาท มูลค่าทั้งสิ้น 10,500 ล้านบาท เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นคหบดีชื่อดังในพื้นที่ จ.พังงา และภูเก็ต ซึ่งเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2553 ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงและอาญานายธวัชชัย ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดิน 7 ทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายทะเบียน สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต กรมที่ดิน กับพวก กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว

ยายวัย 85 ดีใจได้เงินคืน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 2 ล้าน

อายัดบัญชี อดีตข้าราชการครูวัย 85 ปี ดีใจได้เงินคืน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ก.คลัง หลอกโอนเงิน 2 ล้านบาท

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ