กรุงเทพฯ 28 ก.พ. – ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน ทุกสำนักออกมาทิศทางเดียวกันว่า ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง เป็นสิ่งแรกที่ประชาชนขอให้เร่งแก้ไข นโยบายด้านเศรษฐกิจของแต่ละพรรคการเมือง เน้นจุดขายที่จะให้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และจะมีผลต่อการลงคะแนน
ปัญหาปากท้อง เงินในกระเป๋า เป็นเรื่องใกล้ตัว ทั้งยังมีผลกระทบโดยตรงกับประชาชน จึงไม่แปลกที่พรรคการเมืองจะให้ความสำคัญ หยิบยกขึ้นมาขอคะแนน อย่างพรรคประชาธิปัตย์ เสนอประกันรายได้แรงงานไม่ต่ำกว่า 120,000 บาท/ปี โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินส่วนต่างให้ เบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 บาท/เดือน และปรับปรุงโครงการการออมเพื่อการชราภาพ เบี้ยสวัสดิการผู้ยากไร้ 800 บาท/เดือน โอนตรงสมุดบัญชีผู้มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาท/ปี ซึ่งทุกคนจะต้องเข้าระบบรายงานสถานะทางการเงินของตัวเองทุกปี
พรรคเพื่อไทย ขายแนวคิด “เศรษฐกิจแย่ คนแก้ต้องเพื่อไทย” ปรับหนี้ เติมเงิน ลดภาษี สร้างเศรษฐีใหม่ มีสถาบันพัฒนารายได้กระจายตัวอยู่ทุกจังหวัด เพื่อให้โอกาสคนที่อยากมีอาชีพ มีรายได้ทั่วประเทศ ได้เข้าถึงแหล่งทุน เติมพลัง SME กู้เงินหลักหมื่น แสนบาทได้ ไม่ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ทำให้ดีขึ้น สามารถใช้ได้ทุกร้านค้า
พรรคพลังประชารัฐ เปิดนโยบาย “ทำได้จริง ทำได้ทันที” สนับสนุนให้เกิดการทำธุรกิจ ให้โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน สตาร์ทอัพ สมาร์ทฟาร์มเมอร์ มีเงินทุนให้ 1 ล้านบาท ลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% ค้าขายออนไลน์ปลอดภาษี 2 ปี เด็กจบใหม่ลดภาษี 5 ปี ฟรีแลนซ์ฟรีสวัสดิการ มีบัตรประชารัฐช่วยผู้มีรายได้ไม่ถึง 120,000 บาท/ปี
เช่นเดียวกับหลายพรรคการเมืองที่งัดนโยบายใหม่ๆ มาประชันกันเต็มที่ มองว่าปัญหาปากท้องส่วนใหญ่อยู่ที่คนที่ได้รับผลกระทบ คือ เกษตรกรที่มีรายได้น้อย และควรเปิดช่องทางหาโอกาสสร้างรายได้ให้ประชาชน
ที่ผ่านมาปัญหาปากท้อง เงินในกระเป๋าลด รวยกระจุก จนกระจาย เป็นโจทย์ใหญ่ที่แก้ไม่ตก จึงเป็นความท้าทายของพรรคการเมืองที่เสนอตัวเข้ามาแก้ปัญหาให้ประชาชนส่วนใหญ่ โดยนโยบายที่นำเสนอควรจับต้องได้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ฝันเฟื่อง. – สำนักข่าวไทย