ทำเนียบฯ 25 ก.พ. – บอร์ดบีโอไอไฟเขียว 5 โครงการใหญ่ กว่า 40,000 ล้านบาท คลอดมาตรการลดฝุ่นระยะยาว หนุนโรงกลั่นผลิตน้ำมันยูโร 5
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบีโอไอที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบส่งเสริม 5 โครงการใหญ่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 40,462 ล้านบาท เช่น 1.บริษัท เอดับเบิ้ลยู (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับส่งเสริมโครงการผลิตชุดเกียร์ส่งกำลังอัตโนมัติ เงินลงทุน 7,244 ล้านบาท ตั้งอยู่จังหวัดชลบุรี ป้อนค่ายรถยนต์ชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2.บริษัท เจนเนอรัล รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับส่งเสริมโครงการผลิตยางล้อสำหรับยานพาหนะ เงินลงทุน 9,721 ล้านบาท จังหวัดระยอง สนับสนุนการใช้ประโยชน์จากยางพาราในประเทศตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งจะใช้ยางธรรมชาติในประเทศประมาณ 35,393 ตันต่อปี มูลค่าประมาณ 1,673 ล้านบาทต่อปี
3.Mr.XUNNING JU (มิสเตอร์ ซุนหนิง จู) ได้รับการส่งเสริมโครงการยางล้อสำหรับพาหนะ เงินลงทุน 10,061 ล้านบาท จังหวัดชลบุรี สนับสนุนการใช้ประโยชน์จากยางพาราในประเทศตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งจะใช้ยางธรรมชาติในประเทศประมาณ 23,838 ตันต่อปี มูลค่าประมาณ 1,433.3 ล้านบาทต่อปี 4. เรืออากาศโท รณชัย วงศ์ชะอุ่ม ได้รับการส่งเสริมโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน โดยเป็นการร่วมทุนของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กับบริษัทผู้ผลิตอากาศยานรายใหญ่ของโลก เงินลงทุน 6,468 ล้านบาท ตั้งเมืองการบินตะวันออก จ.ระยอง ช่วยยกระดับความสามารถและศักยภาพของช่างอากาศยานตามมาตรฐานสากล รวมทั้งช่วยดึงดูดการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยานและการบินให้เข้ามาลงทุนในไทยมากยิ่งขึ้น และ 5.บริษัท ไทยไลอ้อน เมนทารี จำกัด ได้รับส่งเสริมโครงการขนส่งทางอากาศ เงินลงทุน 6,968 ล้านบาท โดยเป็นกิจการสายการบินราคาประหยัด ให้บริการทั้งเส้นทางการบินภายในประเทศและระหว่างประเทศซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ บอร์ดบีโอไอยังเห็นชอบมาตรการช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษระยะยาว โดยสนับสนุนให้โรงกลั่นน้ำมันปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเป็นมาตรฐานยูโร 5 จากเดิมเป็นมาตรฐานยูโร 4 ซึ่งผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรในการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน ทั้งนี้จะต้องยื่นขอรับสิทธิและประโยชน์ตามมาตรการนี้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 รวมทั้งที่ประชุมยังเห็นชอบปรับปรุงเงื่อนไขลงทุน “กิจการฐานความรู้” อาทิ กิจการปรับปรุงพันธุ์พืชหรือสัตว์ กิจการวิจัยและพัฒนา กิจการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ กิจการออกแบบทางอิเล็กทรอนิกส์ กิจการออกแบบทางวิศวกรรมและกิจการซอฟต์แวร์ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย