บีโอไอเร่งส่งเสริมการลงทุนผลิตเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์

กรุงเทพฯ 13 เม.ย. – บอร์ดบีโอไอ เร่งรัดการลงทุนผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมหนุนโรงงานปรับเปลี่ยนสายการผลิตไปผลิตเครื่องมือแพทย์ที่ขาดแคลน 


นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบีโอไอ วันนี้(13เม.ย. ) ทางสำนักงานบีไอไอได้นำมาตรการส่งเสริมให้มีการเร่งรัดให้เกิดการลงทุนในการผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการปรับเปลี่ยนสายการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ ให้ผลิตเครื่องมือแพทย์ที่ขาดแคลนด้วย นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเร่งรัดการอนุมัติส่งเสริมและอำนวยความสะดวกเรื่องใบอนุญาตและกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ผลิตหน้ากากอนามัยเพิ่มกำลังการผลิตและผลิตได้รวดเร็วขึ้น

สำหรับการส่งเสริมการลงทุนผลิตหน้ากากอนามัย ที่ขณะนี้ ยังคงมีความสำคัญในช่วงของการรระบาดโควิด-19  นั้น โดยภาพรวมแล้ว ในประเทศไทยมีผู้ผลิตหน้ากากอนามัย รวม 11 ราย  ในจำนวนนี้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ 5 ราย  และขณะนี้มีโครงการที่ได้รับการอนุมัติการลงทุนอีก  6 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างลงทุนยังไม่มีการผลิต  ซึ่งผู้ผลิตหน้ากากอนามัยที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนแล้ว  ไม่จำเป็นต้องผลิตเพื่อส่งออกเท่านั้น เพราะเงื่อนไขการส่งออกสินค้าต่าง ๆ ได้ยกเลิกไปตั้งแต่ พ.ศ 2543 ภายใต้ข้อตกลงองค์การการค้าโลก แต่ในกรณีที่ผู้ผลิตประสงค์จะผลิตเพื่อการส่งออก ก็สามารถนำเข้าวัตถุดิบโดยได้รับการยกเว้นอากรได้ภายใต้มาตรา 36 ของ พ.ร.บ. ส่งเสริมการลงทุน ซึ่งเรื่องนี้ เป็นหลักการทั่วไปที่ใช้อยู่เพื่อทำให้การผลิตเพื่อการส่งออกแข่งขันได้ดีขึ้นและไม่ขัดกับข้อตกลงองค์การการค้าโลก  


“หากผู้ผลิตหน้ากากอนามัยได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบสำหรับผลิตเพื่อส่งออก แต่ภายหลังต้องการจำหน่ายในประเทศ บีโอไอก็ทำได้ ไม่มีข้อห้าม เพียงแต่ต้องเสียอากรสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งในที่นี้คือหน้ากาก ซึ่งกรมศุลกากรก็ได้ประกาศยกเว้นการเก็บอากรหน้ากากอนามัยไปแล้วตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.63  และยกเว้นอากรวัสดุสำหรับผลิตหน้ากากด้วย ฉะนั้นจะเห็นได้ว่า นอกจากบีโอไอจะไม่มีข้อห้ามแล้วผลิตต้องส่งออกเท่านั้นแล้ว ยังไม่ต้องเสียอากรสำหรับหน้ากากที่จะขายในประเทศอีกด้วย” นางสาวดวงใจ กล่าว .- สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร