ทำเนียบฯ 6 ส.ค. – สอศ. – BOI ผนึกกำลังเอกชน ยกระดับอาชีวะไทย Upskills พัฒนากำลังคน สร้างแรงงานทักษะสูงรองรับการลงทุน “VOC-UP” 3 พันอัตราใน 5 ปี ดันเงินลงทุน 5 หมื่นล้านบาท
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษาเชิงรุกผลิตกำลังคนทักษะสูงตรงตามความต้องการของตลาดอุตสาหกรรม และภาคการลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ จับมือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และภาคเอกชน 6 ราย ผ่านโครงการความร่วมมือพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาเพื่อสร้างแรงงานทักษะสูงรองรับการลงทุนอย่างเป็นทางการ
นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าว ในนามของกระทรวงศึกษา รู้สึกยินดียิ่งที่ร่วมเปิดโครงการความร่วมมือพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาเพื่อสร้างแรงงานทักษะสูงรองรับการลงทุน Vocational Education Upskill (VOC-UP: ยกระดับอาชีวะไทย อัปสกิลกำลังคนไทยสู่อนาคต) ซึ่งมีเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และภาคเอกชน 6 ราย นับก้าวสำคัญของการศึกษา และการยกระดับการจัดอาชีวศึกษาให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกอุตสาหกรรม ตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการเรียนสายอาชีพเพื่อการมีงานทำ โดยเน้นการเรียนรู้ด้วยการจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี การฝึกอบรม Upskill – Reskill – New Skill ให้กับครู และนักเรียน นักศึกษา รวมถึงการออกแบบหลักสูตรร่วมกับสถานประกอบการ เพื่อให้ผู้เรียนมีสมรรถนะตรงตามความต้องการของเศรษฐกิจใหม่โดยมีอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ร่วมพัฒนา เช่น อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง (Advanced Electronics), ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), โลจิสติกส์ และสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) ซึ่งมีความต้องการกำลังคนในระดับช่างเทคนิคและวิศวกรจำนวนมาก


รมช.ศธ. กล่าวต่อไปว่า โครงการ VOC-UP จึงนับเป็นต้นแบบความร่วมมือที่สร้างกำลังคนคุณภาพเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน การพัฒนากำลังคนให้มีทักษะที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจใหม่ของประเทศผ่าน การเชื่อมโยงการเรียนรู้กับการทำงานจริงอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้แนวคิด‘สร้างคน สร้างงาน’ จึงทำให้โครงการ VOC-UP มีการจ้างงานทันที 1,875 อัตรา และไม่น้อยกว่า 3,000 อัตรา ตลอดระยะเวลา 5 ปีของโครงการ
นายวิทวัต ปัญจมะวัต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมงานเปิดโครงการความร่วมมือพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาเพื่อสร้างแรงงานทักษะสูงรองรับการลงทุน “VOC-UP” โดยนายวิทวัต ปัญจมะวัต กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เป็นหน่วยงานในการผลิตและพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงเพื่อการพัฒนาประเทศ ให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของภาคอุตสาหกรรมในยุคที่เศรษฐกิจกำลังเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว การจัดอาชีวศึกษายุคใหม่จึงต้องเน้นการพัฒนาหลักสูตรร่วมกับภาคเอกชน และบูรณาการการเรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและการฝึกประสบการณ์จริงในสถานประกอบการ ด้วยการจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ซึ่งเป็นรูปแบบการศึกษาที่ช่วยให้ผู้เรียนมีความพร้อมเข้าสู่สถานประกอบการอย่างแท้จริง ความร่วมมือระหว่าง สอศ. BOI และสถานประกอบการ 6 แห่ง ภายใต้แนวคิด VOC-UP ครั้งนี้ จึงถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเชิงระบบ ครอบคลุมการออกแบบหลักสูตร วางแผนการฝึกอบรม ไปจนถึงสร้างโอกาสทำงานทันทีหลังจบการศึกษา ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการกำลังคนที่ตรงสายงานของสถานประกอบการและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อย่างยั่งยืน โดย สอศ. มีสถานศึกษาในสังกัดทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ พร้อมขับเคลื่อนเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างกำลังคนอาชีวศึกษาคุณภาพสูงในระยะยาวและขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
บีโอไอชี้โครงการ VOC-UP คือจุดเชื่อมสำคัญระหว่างภาคการศึกษา – กำลังคน – อุตสาหกรรม
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ปัจจัยที่นักลงทุนต่างชาติ สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย คือ “ประเทศไทยมีบุคลากรเพียงพอและตรงความต้องการหรือไม่” คำถามนี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการวางแผนกำลังคนเชิงรุกเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อขับเคลื่อนแผนพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม บีโอไอจึงได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และภาคเอกชน เดินหน้าโครงการ VOC-UP (Vocational Manpower UpskillingProgram) ซึ่งเป็น “กลไกเชื่อมโยงที่สำคัญ” ระหว่างผู้เรียนอาชีวะ (กำลังคนในอนาคต) สถานศึกษา (ผู้ผลิตกำลังคน) และภาคอุตสาหกรรม (ผู้ใช้กำลังคน)
“บีโอไอ ไม่ได้ทำหน้าที่ให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยประสานงานให้เกิดการพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมด้านบุคลากร บีโอไอเป็นตัวกลางเชื่อมโยงความต้องการของภาคอุตสาหกรรมเข้ากับการพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา เพื่อให้การผลิตกำลังคนเป็นไปอย่างตรงจุด ตรงกลุ่มมากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ๆ อย่างการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) ที่ประเทศไทยกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิต 1 ใน 5 ของโลก และการลงทุนกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยต้องการกำลังคนเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเทคนิคระดับสูงในระดับอาชีวศึกษากว่า 50,000 คน ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม เพิ่มทักษะให้กับบุคลากรไทย และช่วยสร้างงานคุณค่าสูงในประเทศไทยด้วย” นายนฤตม์ กล่าว
ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการจากภาคเอกชนและสถานศึกษาอาชีวศึกษา 8 แห่ง เพื่อแสดงศักยภาพและนวัตกรรมในสาขาวิชาต่าง ๆ ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคถลาง (สาขาอากาศยานและอากาศยานไร้คนขับ), วิทยาลัยการพาณิชย์นาวีนครศรีธรรมราช (สาขาพาณิชย์นาวี), วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ (สาขาปิโตรเคมี), วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี (สาขาระบบขนส่งทางราง), วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ (สาขายานยนต์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ), วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น(สาขาการโรงแรมและธุรกิจการบิน), วิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร และวิทยาลัยพณิชยการธนบุรี .-515- สำนักข่าวไทย