1 ปี กทม.เดินหน้ามาตรการลดฝุ่นแล้วกว่า 30 เรื่อง

กทม. 6 ก.พ.- ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เผย 1 ปี กทม.เดินหน้ามาตรการลดฝุ่นแล้วมากกว่า 30 เรื่อง


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีกรรมการ 40 ท่าน มาจากหลายภาคส่วน เพราะปัญหาเรื่องฝุ่นเป็นปัญหาที่ไม่ใช่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งรับผิดชอบ แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันหลายหน่วยงาน อาทิ กรมควบคุมมลพิษ กรมควบคุมโรค กรมการขนส่งทางบก กรมธุรกิจพลังงาน กรมประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ปริมณฑลต่าง ๆ ทั้งนี้ ประเทศไทยมีแผนวาระแห่งชาติเรื่องฝุ่นอยู่แล้ว ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการตามหน้าที่ที่ต้องทำ ซึ่งในวันนี้แต่ละหน่วยงานได้มารายงานในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว


สำหรับกรุงเทพมหานครก็ได้ดำเนินการในกรอบอำนาจหน้าที่ และได้มีการทำข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาของฝุ่น PM2.5 ว่ามาจากไหน ซึ่งมีอยู่ 3 ส่วน คือ โรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ และการเผาชีวมวล โดยปริมาณฝุ่นที่เกิดในกรุงเทพมหานครหลัก ๆ มาจากรถยนต์ดีเซล แต่ในช่วงที่ฝุ่นสูงสาเหตุหลักคือฝุ่นที่มาจากนอกพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จากสถิติการตรวจพบจุดเผา เปรียบเทียบระหว่างวันที่ 1 – 31 มกราคม ของปี 2566 และปี 2567 พบจุดเผาในประเทศเพื่อนบ้าน ปี 66 จำนวน 25,856 จุด ปี 67 จำนวน 49,983 จุด สูงขึ้น 93% จุดเผาในประเทศ พื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก ปี 66 จำนวน 5,981 จุด ปี 67 จำนวน 3,252 จุด ลดลง 46% จุดเผาในประเทศ พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี 66 จำนวน 6 จุด ปี 67 จำนวน 1 จุด ลดลง 83% ซึ่งในเรื่องนี้ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ได้มีหนังสือถึงเลขาธิการอาเซียนเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมและช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์เพื่อให้ประเทศในภูมิภาคร่วมกันลดจุดความร้อน (การเผา)

ในเรื่องมาตรการ กรุงเทพมหานครได้จัดทำมาตรการลดฝุ่น 365 วัน มากกว่า 30 เรื่อง อาทิ “การลดควันดำ” ด้วยการกำจัดต้นตอฝุ่น โดยสถิติตั้งแต่ 1 ต.ค. 65 – 5 ก.พ. 67 มีการตรวจวัดควันดำรถยนต์ 297,935 คัน สั่งการแก้ไข 3,079 คัน ตรวจสถานประกอบการ 12,380 ครั้ง สั่งการแก้ไข 8 แห่ง ตรวจสถานที่ก่อสร้าง 5,111 ครั้ง สั่งการแก้ไข 34 แห่ง ซึ่งในส่วนของเกณฑ์การตรวจสถานที่ก่อสร้าง หากไม่ผ่านเกณฑ์ 3 ครั้ง จะถูกพักใบอนุญาตก่อสร้าง นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่ตรวจสภาพสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวม 118 แห่ง พบมีข้อบกพร่อง 17 แห่ง สั่งระงับบริการ 7 วัน เพื่อเร่งแก้ไขเร่งด่วน

ส่วนมาตรการ “การปรับปรุงรถควันขาว” กทม.ได้จัดทำโครงการ “รถคันนี้#ลดฝุ่น” เพื่อเชิญชวนประชาชนร่วมเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์ ปัจจุบัน (ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 66 ถึงวันที่ 29 ม.ค. 67) มีจำนวนรถยนต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองแล้ว จำนวน 168,442 คัน ช่วยลด PM2.5 จากภาคการจราจรได้ 8% ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครและภาคีเครือข่ายได้ตั้งเป้าหมายเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองรถยนต์ไว้ที่ 300,000 คัน ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เชื่อว่าสามารถทำได้ ซึ่งหากทำได้จะสามารถลด PM2.5 จากการจราจรได้ถึง 15% จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนสำคัญในการลดการปล่อย PM2.5 อย่างยั่งยืน โดยผู้สนใจร่วมโครงการสามารถดูโปรโมชั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้ที่ https://drive.google.com/file/d/16PCsZC-0oGlOQmLoFkUCmjF88fs2A4qN/view?usp=sharing อีกทั้งยังมีนโยบายการเปลี่ยนน้ำมันให้เป็นมาตรฐานยูโร 5 ซึ่งน่าจะทำให้ในระยะยาวสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 จากภาคการจราจรดีขึ้น


ด้านมาตรการ “การลดการเผาในที่โล่ง” ในภาคการเกษตร กรุงเทพมหานครได้มีการซื้อรถอัดฟางให้เกษตรกรในพื้นที่หนองจอก มีนบุรี คันนายาว ได้ใช้ เพื่อช่วยลดต้นทุนให้แก่เกษตรกร และทำให้เกษตรกรสามารถนำฟางอัดมาขายเป็นรายได้ได้อีกด้วย อนาคตอาจจะมีการพัฒนาเรื่องการจัดเก็บฟางอัดเพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสมต่อไป สำหรับตอซังที่เหลือได้มีการใช้จุลินทรีย์ย่อยสลาย โดยปัจจุบันมีนวัตกรรมจุลินทรีย์ตัวใหม่ที่สามารถลดระยะเวลาการย่อยสลายจาก 30 วัน เหลือ 7 วัน ส่วนอีกมาตรการหนึ่งคือ “การพัฒนาพื้นที่ลักลอบทิ้งขยะ” โดยใช้พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดฯ เพื่อลดการลักลอบเผาขยะตามพื้นที่ต่าง ๆ

สำหรับแผนบริหารจัดการฝุ่นระยะวิกฤต กรุงเทพมหานครมีเครือข่าย Work from Home (WFH) จำนวน 136 แห่ง รวมพนักงาน 53,545 คน โดยจะเริ่มใช้มาตรการดังกล่าวเมื่อคาดการณ์ค่าฝุ่นเป็นสีแดง หรือค่า PM2.5 มากกว่า 75 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ต่อเนื่องกัน 3 วัน ใน 2 กรณี คือ 1. ค่าฝุ่นสีแดง 15 เขต (30% ของจำนวนเขตทั้งกทม.) หรือ 2. ค่าฝุ่นสีแดงพื้นที่กรุงเทพตะวันออก (ต้นลม) 7 เขต ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ถึงระดับนี้จึงยังไม่มีการประกาศ WFH โดยเหตุผลที่จะต้อง WFH คือ ทำให้ฝุ่นจากการจราจรลดลง ประชาชนได้อยู่ที่บ้านซึ่งน่าจะมีการป้องกันที่ดีกว่า

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา สภากรุงเทพมหานครมีการออกข้อบัญญัติให้รถเมล์ในกทม.ต้องเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมดภายใน 7 ปี แต่คณะกรรมการกฤษฎีการะบุว่า กทม.ไม่มีอำนาจในส่วนนี้ จะเห็นได้ว่า กทม.ไม่ได้มีอำนาจครอบคลุมทุกด้าน จึงต้องดำเนินการภายในกรอบอำนาจที่มี โดยปลัดกรุงเทพมหานครยังได้สั่งการให้สำนักงานเขตพิจารณานำแนวทางการประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญปรับใช้ตามสถานการณ์ ผู้อำนวยการเขตจะประเมินสถานการณ์ภายใต้ 3 เงื่อนไข คือ 1. มีเหตุเดือดร้อนรำคาญ 2. มีแหล่งกำเนิดฝุ่นมากกว่า 1 แห่ง 3. มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ก่อนออกประกาศ เรื่อง กำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ เพื่อควบคุมกิจกรรม/กิจการในพื้นที่ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดฝุ่น ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข

ในเชิงสุขภาพของประชาชน กรุงเทพมหานครได้เปิดคลินิกมลพิษทางอากาศในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร 8 แห่ง ได้แก่ รพ.กลาง รพ.ตากสิน รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ รพ.เวชการุณย์รัศมิ์ รพ.ลาดกระบังกรุงเทพมหานคร รพ.ราชพิพัฒน์ และ รพ.สิรินธร รวมถึงมีการประสานเครือข่ายขยายห้องเรียนปลอดฝุ่น โดยดำเนินการแล้ว 61 โรงเรียน ทั้งนี้ กทม.มีห้องเรียนชั้นอนุบาล 429 โรงเรียน รวมทั้งสิ้น 1,743 ห้อง มีเครื่องปรับอากาศ 697 ห้อง ไม่มีเครื่องปรับอากาศ 1,046 ห้อง และรวมไปถึงศูนย์เด็กเล็ก (ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุงเทพมหานคร) ประมาณ 240 แห่ง ปัจจุบันมีเครื่องกรองอากาศแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องเครื่องปรับอากาศต่อไป

สุดท้ายเป็นการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ สื่อมวลชน ประชาสังคม และประชาชน อาทิ การจัดทำโครงการรถคันนี้#ลดฝุ่น เครือข่าย WFH เครือข่ายนักสืบฝุ่น สภาลมหายใจ และการใช้ Traffy Fondue ในการรับแจ้งเหตุ

อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์ความร่วมมือต่าง ๆ จะดีขึ้น แต่สุดท้ายอยู่ที่การเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะฝุ่นเกิดจากคน หากคนไม่เปลี่ยนพฤติกรรมก็ยากที่จะลดฝุ่นได้ ซึ่งการเปลี่ยนพฤติกรรมมี 2 รูปแบบ คือ ใช้แรงจูงใจ และเชิงบังคับ (นโยบาย/กฎหมาย)

ทั้งนี้ สถานการณ์ตอนนี้น่าจะเริ่มดีขึ้นเพราะมีลมใต้พัดเข้ามา แต่อนาคตอาจจะมีฝุ่นจากเกษตรกรรมในประเทศมากขึ้น ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด. 417.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย