ภท. โต้โพล อนุทิน เป็นที่รู้จัก

กทม. 22 ก.พ. -ภท. ย้ำ กัญชาเสรี ทำได้จริง ศึกษาวิจัยมาแล้ว โต้โพล อนุทิน เป็นที่รู้จัก ขณะที่สั่งผู้สมัคร เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็น โลโก้พรรค สร้างภาพจำ-ตอกย้ำใกล้ชิดประชาชน


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรค และ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรค แถลงข่าวชี้แจงนโยบายกำไรแบ่งปันสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าว ที่มีการตั้งข้อสังเกตจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า อาจทำให้ข้าวสารมีราคาแพง และนโยบายกัญชาเสรี ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่านโยบายดังกล่าวทำไม่ง่าย ว่า ขอยืนยันว่านโยบายต่างๆ ของพรรคทั้ง 12 ด้าน ผ่านการศึกษาและวิจัยตามหลักวิชาการ ยกตัวอย่างเรื่องข้าว ที่ยืนยันว่าจะไม่ทำให้ราคาข้าวสารแพงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์มีมาตรการควบคุมราคาข้าวสาร และตามประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 1 พ.ศ.2562 ได้จัดให้ข้าวอยู่ในสินค้าควบคุม นอกจากนี้ ระบบข้าวกำไรแบ่งปันของพรรคยังใช้รูปแบบเดียวกับกฎหมายอ้อยและน้ำตาลที่ดำเนินการมาแล้ว 35 ปี  ทำให้ชาวไร่อ้อยได้กำไรถึงร้อยละ 70 ขณะที่โรงงานและผู้ส่งออกน้ำตาลได้กำไรจากส่วนแบ่งร้อยละ 30 ดังนั้น หากนำแนวทางของอ้อยและน้ำตาลมาใช้กับข้าว ชาวนาจะมีรายได้เพิ่มขึ้นแน่นอน โดยชาวนาจะได้ส่วนแบ่งร้อยละ 5 โรงสีร้อยละ 10 และผู้ค้าข้าวได้ร้อยละ 15 

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ส่วนนโยบายกัญชาเสรีนั้น เดิมกัญชาไม่ได้ถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษและมีขายตามร้านขายยา แต่ต่อมา พ.ศ. 2522 รัฐบาลได้กำหนดให้กัญชาเป็นสิ่งเสพติด กระทั่งปัจจุบัน รัฐบาลได้แก้ไขกฎหมายให้กัญชาสามารถใช้ทางการแพทย์และการพาณิชย์ แต่พรรคเห็นว่ายังไม่สมบูรณ์ โดยเราได้ศึกษาต้นแบบที่ประสบความสำเร็จจากมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งประกอบด้วยการใช้กัญชาเพื่อ 3 วัตถุประสงค์ คือ เพื่อการแพทย์ เพื่อการพาณิชย์ และ ประชาชนสามารถปลูกได้ 6 ต้น/ครอบครัว ซึ่งพรรคได้นำโมเดลดังกล่าวมาทำเป็นนโยบาย พร้อมเสนอเป็นร่างกฎหมาย โดยเสริมเรื่องที่ 4 คือแพทย์แผนไทย ดังนั้น หากพรรคเป็นรัฐบาล จะแก้กฎหมายและผลักดันทั้ง 4 แนวทางให้เป็นความจริง ซึ่งจะสร้างรายได้ให้ประเทศปีละประมาณ 303,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ จะนำเงิน 100,000 ล้านบาท ไปผลักดันนโยบายอีก 11 ด้านของพรรค โดยไม่ต้องกู้เงิน ไม่ต้องขึ้นภาษี หรือขายพันธบัตร ส่วนเงินอีก 200,000 ล้านบาท จะนำไปลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากร้อยละ 7 เหลือร้อยละ 5 ถือเป็นการลดรายจ่ายของประชาชน และทำให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจได้มากขึ้น 


นายศักดิ์สยามกล่าวต่อว่า ส่วนข้อกังวลของนายวิษณุที่ระบุว่ากัญชาบางสายพันธุ์ เป็นโทษมากกว่าเป็นคุณนั้น ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องสรรหาสายพันธุ์ที่ดีและมีราคามาให้ประชาชนเพาะปลูก เช่นเดียวกับการหาพันธุ์ข้าวที่รัฐบาลต้องควบคุม ไม่ใช่การต้มแกงไก่ที่จะใช้สายพันธุ์อะไรก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากพรรค ภท.ไม่ได้เข้าไปแก้ไขกฎหมายยาเสพติดให้โทษที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ให้ความเห็นชอบและมีผลบังคับใช้อยู่ในขณะนี้ ก็จะส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตยามีโอกาสครอบงำและผูกขาดธุรกิจกัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่ประชาชนจะเสียโอกาสในการสร้างรายได้ด้วยการปลูกกัญชาครอบครัวละ 6 ต้น รวมทั้งยังต้องเสี่ยงซื้อยาที่มีราคาแพง เช่น น้ำมันแคนนาบิไดออล (CBD Oil) ที่สกัดจากพืชกัญชา ซึ่งมีราคาแคปซูลละ 3,000 บาท และตนเชื่อว่านายทุนเหล่านั้นจะไม่ลดราคาให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายอย่างแน่นอน 

เมื่อถามถึงโอกาสในการผลักดันนโยบายกัญชาเสรีให้เป็นผลสำเร็จ นายศักดิ์สยามกล่าวว่า หากประชาชนเห็นด้วยกับนโยบายกัญชาเสรี ขอให้เลือกพรรคภท.กันมากๆในวันที่ 24 มีนาคมนี้ หากพรรคภท.เป็นแกนนำรัฐบาล ก็สามารถดำเนินการได้ทันที แต่หากใครจะดึงเราไปร่วมรัฐบาล ก็ต้องรับนโยบายทั้ง 12 ด้านไปปฏิบัติ แต่หากไม่รับ เราก็ไม่ร่วม และขอยืนยันว่า หากเราทำนโยบายกัญชาเสรีได้จริง ประชาชนจะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราที่ลดลง เหลือร้อยละ 5 อย่างแน่นอน 

เมื่อถามว่า จากผลโพลหลายสำนัก พบว่าพรรคภท.และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ไม่ติดอยู่ในอันดับความนิยม นายศักดิ์สยามกล่าวว่า สำนักโพลมีหลายสำนัก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีที่เราจะได้ทำงานให้หนักขึ้น และอยากให้ดูวันที่ 24 มีนาคม ว่าสุดท้ายผลจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนกรณีที่ระบุว่านายอนุทินไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมา นายอนุทินเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนและกล่าวปราศรัยในเวทีต่างๆ ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี 


ด้าน พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า ใกล้ถึงวันเลือกตั้ง 24 มีนาคมเข้ามาทุกขณะ สถานการณ์การเมืองก็จะยิ่งเข้มข้นขึ้น  ที่ผ่านมา เราจะเห็นการใช้เกมใต้ดินต่างๆ ในทางการเมืองเข้ามาทำลายล้างกัน ไม่ว่าจะเป็นการใส่ร้าย ให้ข่าวโจมตี หรือการทำลายป้ายหาเสียง พรรค ภท.เองก็มีผู้สมัครที่ถูกกระทำอย่างนั้นด้วย ซึ่งเราเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นพลวัตทางการเมือง จึงไม่ได้มีการโต้ตอบอะไรออกไป อีกทั้งนายอนุทินได้ให้นโยบายไว้ชัดเจนว่าเราทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ ไม่ตอบโต้ทำลายกันทางการเมือง 

พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า ช่วงใกล้เลือกตั้งที่เหลือเวลาอีก 31 วันนั้น หัวหน้าพรรคได้กำชับให้ลูกพรรคทุกคนเร่งลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรค และแนะนำผู้สมัครให้ประชาชนในพื้นที่ได้รู้จักมากที่สุด ซึ่งการให้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับผู้สมัคร และนโยบายของพรรค จะเป็นส่วนช่วยให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจลงคะแนนให้กับผู้สมัครของเราได้ นอกจากนี้ นายอนุทินยังได้ขอความร่วมมือไปยังลูกพรรคทุกคนให้ใช้ตรา (Logo) ของพรรค ภท. นำมาเป็นภาพโปรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ไปจนถึงวันที่ 24 มีนาคม เพื่อให้ประชาชนจดจำพรรคภท.ได้ และสื่อให้เห็นว่าพรรคภท.อยู่กับประชาชนในทุกที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย