ไทย-ฮังการีเชื่อมยุทธศาสตร์ดานูบสู่แม่โขงโมเดลจัดการน้ำข้ามพรมแดน

กรุงเทพฯ 19 ก.พ.- ไทย-ฮังการีจะร่วมมือกันในการบริหารจัดการน้ำ โดยให้ สทนช.เป็นหน่วยงานกลางประสานและจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจด้านน้ำอย่างเป็นทางการต่อไป


พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเดินทางเยือนประเทศฮังการี ตามที่ได้รับเชิญจากรัฐบาลประเทศฮังการีอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 14-16 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อหารือแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านน้ำระหว่างกันว่า ฮังการีนับเป็นประเทศอันดับต้นๆ ของยุโรปตะวันออกที่มีชื่อเสียงด้านการอนุรักษ์น้ำ พลังงานหมุนเวียนจากน้ำเสีย วิศวกรรมน้ำ รวมถึงการจัดการน้ำระหว่างประเทศ ซึ่งจากการหารือร่วมกับผู้นำระดับสูงของฮังการี ได้แก่ นายโชลท์ เชเมน รองนายกรัฐมนตรี นายเปเตอร์ ซิยาโท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้า และ นายอิชวาน ยาคอบ รองประธานรัฐสภา พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการบริหารจัดการน้ำของฮังการี ในเบื้องต้นทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องร่วมกันทำความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ ความรู้ ผลการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานทั้ง 2 ประเทศ และนำไปสู่การพัฒนาจัดทำโครงการร่วมในประเด็นที่สนใจร่วมกันใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่  1. การบริหารจัดการน้ำข้ามพรมแดนระหว่างลุ่มน้ำดานูบ และลุ่มน้ำโขง 2. การบริหารจัดการตะกอนในลำน้ำ 3 การบริหารจัดการน้ำท่วมและน้ำแล้ง รวมถึงการจัดการน้ำเสีย 4 การเพิ่มศักยภาพการใช้ประโยชน์จากน้ำบาดาลร่วมกับน้ำผิวดิน และ 5 การพัฒนาพื้นที่ชลประทาน โดยมอบให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งช่าติ (สทนช.) เป็นหน่วยงานกลางประสานกับฮังการี เพื่อจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจด้านน้ำ (MOU) ระหว่างไทย-ฮังการีอย่างเป็นทางการต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บทฯน้ำ ด้านที่ 4 การจัดการคุณภาพน้ำและอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรน้ำ และรูปแบบการพิจารณาผลกระทบข้ามลุ่มน้ำซึ่งตรงกับแผนแม่บทฯน้ำ ด้านที่ 6 การบริหารจัดการ ซึ่งรวมถึงลุ่มน้ำระหว่างประเทศ โดยพัฒนากลไกความร่วมมือระหว่างประเทศด้านทรัพยากรน้ำเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการบริหารจัดการด้วย 

“ฮังการีมีบทบาทเด่นในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ โดยเป็นที่ตั้งของสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการดานูบ และเป็นผู้ผลักดันยุทธศาสตร์สหภาพยุโรป ที่กำกับดูแลทำข้อตกลงการบริหารจัดการลุ่มน้ำระหว่างประเทศ คือ แม่น้าดานูบ ซึ่งมีความยาวประมาณ 2,845 กม. ไหลผ่านและเป็นเส้นแบ่งอาณาเขตของ 10 ประเทศ โดยมุ่งเน้นความเสมอภาคในการใช้น้ำร่วมกัน รวมถึงความโดนเด่นในการบริหารจัดการน้ำผิวดินและน้ำบาดาล ที่ฮังการีมีแหล่งน้ำปิด 4,000 แห่ง มีพื้นที่ผิวน้ำรวม 1.05 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 75 ที่เป็นแหล่งน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้น” พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว 


พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากการหารือความร่วมมือด้านน้ำระหว่างกันแล้ว ยังหารือเพื่อขยายโอกาสด้านการค้าการลงทุนระหว่างกันด้วย เนื่องจากประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนในปี 2562 จึงเสนอให้ทั้งสองประเทศใช้ประโยชน์ของลักษณะกายภาพในที่ตั้งที่เหมาะสมของทั้งสองประเทศ ในการเป็นศูนย์กลางและเป็นประตูสู่ของอาเซียนและยุโรปในทุกๆ ด้านด้วย 

ด้านนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติม การบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำระหว่างประเทศได้มีการถ่ายโอนมาให้ สทนช.กำกับดูแล และเป็นฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ซึ่งมีหลายประเด็นที่ต้องพัฒนาและสานต่อ ดังนั้น การหารือในระดับนโยบายระหว่างสองประเทศครั้งนี้ จะทำให้การดำเนินการจัดการลุ่มน้ำระหว่างประเทศที่ฮังการีประสบความสำเร็จ สามารถนำมาเป็นโมเดลในการดำเนินการได้ ซึ่ง สทนช.จะเป็นหน่วยงานกลางในการประสานงาน และหารือในรายละเอียดเพื่อนำไปสู่การลงนามความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างไทย-ฮังการีในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ฮังการียังได้เชิญรองนายกฯ ของไทยเข้าร่วมงาน Budapest Water Summit ระหว่าง 15-17 ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นการประชุมระดับสูงเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันวิกฤติด้านน้ำ ซึ่งมีการจัดแสดงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำโดยบริษัทชั้นนำของฮังการีและประเทศอื่น ๆ ด้วย 

“ที่ผ่านมาแม้ว่าไทย-ฮังการีจะมีการติดต่อประสานงานความร่วมมือด้านน้ำ แต่ยังไม่มีผลดำเนินการที่เป็นรูปธรรมมากนัก ดังนั้น การหารือในระดับนโยบายครั้งนี้จะนำไปสู่การเพิ่มบทบาทภาครัฐในการทำงานร่วมกันระหว่างสองประเทศมากขึ้น ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลข่าวสาร งานวิจัย ซึ่งไทยให้ความสนใจการแก้ไขปัญหาการตกตะกอนในแม่น้ำสายใหญ่ทั้งลุ่มน้ำโขง และแม่น้ำสายใหญ่ภายในประเทศ การวางแผนระดับลุ่มน้ำที่กำหนดอยู่ใน พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำฯ ซึ่งฮังการีมีแผนการบริหารจัดการแม่น้าดานูบ ซึ่งเป็นแผนบริหารจัดการแม่น้ำระหว่างประเทศที่ดีประเทศหนึ่ง ที่ไทยจะนำมาประยุกต์ใช้กับแม่น้ำแม่โขงที่ฮังการีมีความร่วมมือระดับทวิภาคีกับประเทศในกลุ่มแม่น้ำโขงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ไทยยังให้ความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ซึ่งต้องการงานวิจัยพัฒนาทั้งการคาดการณ์ แจ้งเตือน และ การบริหารจัดการน้ำในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อลดผลกระทบจากภัยพิบัติ การส่งน้ำ การผลิตน้ำประปา การบริหารจัดการน้ำ และ การบำบัดน้าเสีย เป็นต้น” นายสมเกียรติ กล่าว.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย