นครราชสีมา 5 ก.พ.-การย้ายค่ายของอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ทำให้การเลือกตั้ง ส.ส.ของจังหวัดนครราชสีมา สนามใหญ่ที่สุดของภูมิภาค ซึ่งมีถึง 14 เขตเลือกตั้ง มีบรรยากาศการแข่งขันดุเดือดมากขึ้น
การปรากฏตัวของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมการดึงตัวอดีต ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยบางส่วนเข้าร่วมอุดมการณ์ ทำให้อุณหภูมิการเลือกตั้งสนามใหญ่อย่างนครราชสีมา ที่มีมากถึง 14 เขตเลือกตั้ง ทวีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น เพราะอดีต ส.ส.ไม่เพียงต่อสู้กับกระแสนิยมของพรรคเก่า แต่ยังต้องช่วงชิงคะแนนจากพรรคชาติพัฒนา พรรคท้องถิ่นที่ครองใจคนโคราชมายาวนาน และพรรคภูมิใจไทยที่เคยมี ส.ส. 3 ที่นั่ง
สุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน เป็นหนึ่งในคนของพรรคเพื่อไทย ที่เปลี่ยนมาสวมเสื้อพลังประชารัฐในเขตเลือกตั้งที่ 10 อำเภอครบุรี เสิงสาง และวังน้ำเขียว เฉพาะตำบลไทยสามัคคี และตำบลวังน้ำเขียว ยอมรับว่าเคยวิตกกังวล แต่หลังพบว่ารัฐบาลมีนโยบายดีๆ หลายอย่าง สามารถทดแทนการขาดหายไปของคนนิยมเพื่อไทยได้ บวกกับบุคลิกส่วนตัวที่เป็นลูกหลานคนในพื้นที่ เข้าถึงพี่น้องประชาชน อีกทั้งคนในพื้นที่นี้ นิยมเลือกที่ตัวบุคคลมากกว่าพรรคการเมือง จึงมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย คู่แข่งสำคัญ ส่งพรชัย อำนวยทรัพย์ อดีต สจ.3 สมัย ลงท้าชิง การลงพื้นที่พบปะประชาชนมาโดยตลอด และเคยเอาชนะภรรยา ตลอดจนญาติของแรมโบ้อีสานในเวทีท้องถิ่น ทำให้เค้ามั่นใจว่า จะเอาชนะเจ้าตัวได้เช่นกัน โดยเชื่อว่า การย้ายพรรคของแรมโบ้อีสานเป็นประโยชน์กับเค้า
เจ้าของพื้นที่เดิม คือ สัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ พี่ชายแรมโบ้อีสาน เลือกตั้งครั้งก่อนคว้าไปกว่า 44,000 คะแนน ขณะที่ภูมิใจไทย จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ตามมาที่ 36,000 คะแนนเศษ
ว่าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มองว่า ภาพรวมของทั้งจังหวัด จะเป็นการช่วงชิงระหว่างพรรคเพื่อไทยและพลังประชารัฐ มีพรรคชาติพัฒนา และภูมิใจไทยสอดแทรก โดยจะไม่มีพรรคการเมืองใดได้เกิน 5 ที่นั่ง.-สำนักข่าวไทย