“ก้องศักด” เตรียมย่อส่วน JISS มาเป็นต้นแบบใช้ที่ กกท.

ญี่ปุ่น 2 ก.พ.62-คณะผู้บริหารจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
นำโดย นายอภิชาติ จีระพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ในฐานะหัวหน้าคณะ พร้อมด้วย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล
กรรมการโอลิมปิกระหว่างประเทศ (ไอโอซีเมมเบอร์) และ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ
กกท. เดินทางศึกษาดูงาน ที่สถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศญี่ปุ่น (
JISS)
และศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่น (Ajinomoto National Training
Center : Ajinomoto NTC) ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 30
ม.ค.-2 ก.พ.62 โดยคณะผู้บริหารวงการกีฬาของไทย
ได้ไปยังที่สถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศญี่ปุ่น (
JISS)


 


ภายหลังการเยี่ยมชมและรับฟังการบรรยายจากวิทยากรของสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศญี่ปุ่น
แล้วนั้น
บิ๊กก้องดร.ก้องศักด
ยอดมณี เปิดเผยว่า การมาศึกษาดูงานครั้งนี้เราได้ไปเห็นอุปกรณ์และเครื่องไม้เครื่องมือ
ตลอดจนเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ
JISS ที่จะสาารถนำไปปรับใช้กับของ กกท.
ซึ่งเรามีโครงการที่จะขออนุมัติงบประมาณจาก บอร์ด กกท. จำนวน 850 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในวันที่ 13 ก.พ.นี้ จะเสนอขออนุมัติจาก บอร์ด กกท.
ในการจัดตั้งคณะอนุกรรมการโรงพยาบาลกีฬาอีกด้วย
เพื่อให้การทำงานของศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติและศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา
มีความสอดคล้องและเดินหน้าพัฒนานักกีฬาไปในทิศทางเดียวกัน

 

ที่สถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศญี่ปุ่น
ได้รับงบประมาณปีละ 600 ล้านบาท ภายในมีเครื่อง
MRI 2
เครื่อง มีเครื่องเอ็กซเรย์ 1 เครื่อง มีแพทย์ประจำ 8 คน
โดยเป็นแพทย์ที่สามารถผ่าตัดได้ 6 คน รวมบุคลากรด้านการแพทย์ 30 คน
และนักกาภาพบำบัดอีก 30 คน
ที่สำคัญคือเมื่อนักกีฬาบาดเจ็บก็ไม่ต้องไปเข้าคิวรอรักษาที่โรงพยาบาลข้างนอกแต่อย่างใด
ซึ่งจุดนี้ กกท.เองก็จะนำมาเป็นต้นแบบด้วย
เรื่องของงบประมาณและบุคลากรคงไม่เทียบเท่ากับญี่ปุ่น
แต่เราจะเน้นเรื่องของคุณภาพที่จะทำให้อย่างเต็มที่ที่สุด
บิ๊กก้อง
ย้ำ


 


ผู้ว่าการ กกท. กล่าวต่อว่า
ในส่วนของศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ ที่ตนเคยพูดไปว่าทั้งของไทยและญี่ปุ่น
มีลักษณะคล้ายกันตรงที่ขนาดของพื้นที่ ซึ่งเราจะต้องใช้ประโยชน์จากข้อจำกัดให้เกิดความคุณค่าสูงสุดนั้น
จุดนี้ก็ต้องมองไปที่เรื่องของการกำหนดชนิดกีฬาที่จะมีอยู่ในศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ
ที่ กกท.หัวหมาก ด้วย ซึ่งในเบื้องต้นจะเน้นไปที่กีฬาที่มีแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์
เป็นอันดับแรก ตามมาด้วยเอเชี่ยนเกมส์ เพื่อให้นักกีฬาได้พัฒนาได้เต็มศักยภาพ
คาดว่าจะมีประมาณ 19-20 ชนิดกีฬา ส่วกีฬาอื่นๆ
นอกเหนือจากนี้ก็จะกระจายไปตามศูนย์ต่างๆ ในภูมิภาค อาทิ มวกเหล็ก
, เขียงใหม่
และชลบุรี เป็นต้น ซึ่ง กกท. จะเข้าไปปรับปรุงเพิ่มศักยภาพให้กับศูนย์ภูมิภาคด้วย
ทั้งนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในศูนย์ฯ
จะไม่ได้แค่ตอบโจทย์ให้กับนักกีฬาปกติเท่านั้น
แต่จะต้องรองรับนักกีฬาคนพิการไปพร้อมๆ กันอีกด้วย-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]