เศรษฐกิจโลกชะลอฉุดรายได้เอสซีจี

กรุงเทพฯ 30 ม.ค. – เอสซีจีเผยกำไรปี 61 ลดลงร้อยละ 19 จากสงครามการค้า-ราคาน้ำมันตลาดโลกผันผวนและเงินบาทแข็งค่า ปีนี้ลงทุนเพิ่มอีก 60,000 ล้านบาท 


นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยงบการเงินรวมก่อนตรวจสอบของเอสซีจี ประจำปี 2561 ว่า มีรายได้จากการขาย 478,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากปีก่อนมีกำไรร้อยละ 9 จากยอดขาย โดยมีกำไรสำหรับปี 44,748 ล้านบาท แต่ลดลงร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ทั้งสถานการณ์สงครามการค้า ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ผันผวน และเงินบาทแข็งค่า จึงส่งผลต่อภาพรวมผลประกอบการของเอสซีจี   

ส่วนไตรมาส 4 มีรายได้จากการขาย 117,223 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4 จากไตรมาสก่อน จากราคาขายสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ปรับตัวลง แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะปริมาณขายสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้นและการขยายตัวของตลาดในประเทศ ผลประกอบการนอกเหนือจากประเทศไทยปี 2561 เอสซีจีมีรายได้จากการขายในภูมิภาคอาเซียน 118,014 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25 ของรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากปีก่อน และมีรายได้จากการขายในภูมิภาคอื่น ๆ 86,155 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 18 ของรายได้จากการขายรวม  


ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เอสซีจี มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 18.00 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 21,600 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 48 ของกำไรจากงบการเงินรวมปี 2561  

ส่วนแนวโน้มการทำธุรกิจปี 2562 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทั้งปัจจัยภายในประเทศและภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะธุรกิจซีเมนต์ เนื่องจากแนวโน้มความต้องการใช้ปูนซีเมนต์สูงขึ้นจากการลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กของภาครัฐ  ทั้งโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ และโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ประเมินว่าจะโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3-5 รวมถึงภูมิภาคอาเซียนที่ขณะนี้ทุกประเทศมีแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้วย ทั้งประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา เมียนมาร์ และ สปป.ลาว ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์แต่ละประเทศจึงมีศักยภาพเติบโตไปได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะกัมพูชาปีที่ผ่านมาการใช้ปูนซีเมนต์โต 2 หลัก คือ กัมพูชา 

ด้านการลงทุนปีนี้จะลงทุนรวมประมาณ 60,000 ล้านบาท จากที่ปี 2561 ลงทุนรวม 46,000 ล้านบาท  โดยลงทุนในธุรกิจสตาร์อัพในไทย จีน อินโดนีเซีย และดิจิทัลที่สหรัฐ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจในเครือเช่น แพ็คเกจจิ้ง อี-คอมเมิร์ซ วิจัยและพัฒนา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า นอกจากนี้ ยังบุกตลาดใหม่ ๆ เป็นต้น โดยจะลงทุนในอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้น โดยแหล่งเงินที่ใช้จะมีการออกหุ้นกู้ 15,000 ล้านบาททดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนด ภาพรวมการลงทุน มีการลงทุนในประเทศเวียดนามวงเงินประมาณ 180,000 ล้านบาท ทยอยลงทุนในช่วง 4 ปีจากนี้ไป อีกส่วน คือ โครงการลงทุนด้านปิโตรเคมี 20,000 ล้านบาท ลงทุนด้านธุรกิจแพคเกจจิ้งที่ประเทศฟิลิปปินส์ประมาณเกือบ 5,000 ล้าบาท โดยจะลงทุนในช่วง 2-3 ปีจากนี้ โดยแหล่งเงินจากการลงทุนด้านปิโตรเคมีได้จัดหาแหล่งเงินเอาไว้แล้วในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ส่วนเงินเพื่อลงทุนโครงการอื่น ๆ  เป็นเงินจากแหล่งเงินกู้บวกกระแสเงินสด โดยสรุปแล้วแหล่งเงินลงทุนในภาพรวมบริษัทจะพยายามบริหารจัดการให้มีเสถียภาพทางการเงิน โดยอัตราส่วนค่าเฉลี่ยเงินกู้ต่อเงินบริษัทจะรักษาสัดส่วนไว้ที่ 2.5 เท่า ซึ่งมั่นใจว่าจะบริหารจัดการให้มีเสถียรภาพได้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง