กรุงเทพฯ 30 ม.ค. – สศอ.เตรียมเร่งรัดให้การผลิตรถยนต์ใหม่ในประเทศต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานยูโร 5 ภายใน 2 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 คาดจะช่วยลดฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 37,391 ตัน/ปี
นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นปัญหาใหญ่และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนขณะนี้ ส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากการสะสมของรถยนต์ยูโร 4 ซึ่งปล่อยฝุ่นควันจำนวนมาก ดังนั้น สศอ.จึงได้เร่งรัดให้มีการบังคับใช้มาตรฐานการระบายสารมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ให้เร็วยิ่งขึ้น โดยเตรียมกำหนดให้ผู้ประกอบการที่ผลิตรถยนต์ใหม่ในประเทศต้องผ่านมาตรฐานยูโร 5 เป็นขั้นต่ำ ภายใน 1-2 ปี และกำหนดให้โครงการผลิตรถยนต์ xEV ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนต้องผลิตรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 6 คาดว่าการยกระดับมาตรฐานตามสหภาพยุโรป (อียู) จะช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 37,391 ตัน หรือลดลงจากเดิมประมาณร้อยละ 80 ภายในปี 2564
ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศ ได้แก่ Eco car phase 2 จำนวน 27 รุ่น และรถยนต์ขนาดกลางและใหญ่ 11 รุ่น ขณะที่มีรถยนต์นำเข้า 19 รุ่น ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 สำหรับรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ได้แก่ รถยนต์ขนาดกลางและใหญ่ที่ผลิตภายในประเทศ 27 รุ่น และรถยนต์นำเข้า 84 รุ่น การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองนี้เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกัน โดยประชาชนสามารถเลือกซื้อรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานใหม่ยูโร 5 ขึ้นไปที่ปล่อยมลพิษและฝุ่นละออง PM2.5 เพียง 1 ใน 5 ของมาตรฐานยูโร 4 เดิม และประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 และยูโร 6 ผ่านฉลาก ECO Sticker ที่ติดอยู่บนตัวรถยนต์ หรือสามารถเข้าไปดูได้ที่ www.car.go.th .-สำนักข่าวไทย