เห็นชอบหลักการยกระดับความสัมพันธ์อาเซียน-อียู

กรุงบรัสเซลล์ 22 ม.ค.- ที่ประชุม รมต.ต่างประเทศอาเซียน – อียู ครั้งที่ 22 เห็นชอบหลักการยกระดับความสัมพันธ์เข้าสู่สถานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และพอใจต่อการหารือของเจ้าหน้าที่ระดับสูง เกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างอาเซียน-อียู ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น เมื่อปี 2560  พร้อมคาดหวังและรอคอยที่จะจัดการหารือครั้งต่อไป    


“สุธิดา ปล้องพุดซา” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ว่า  การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) ครั้งที่ 22 ณ กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม  วันที่ 21 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันเข้าสู่สถานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

ทั้งนี้ มีรายงานว่า เดิมอาเซียน-อียูจะประกาศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในการประชุมครั้งนี้ แต่เกิดปัญหาติดขัดขึ้น เนื่องจากอินโดนีเซียและมาเลเซียไม่พอใจต่อนโยบายของอียู ที่จำกัดการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากทั้ง 2 ประเทศ เป็นเหตุให้ที่ประชุมจึงเพียงแต่รับรองในหลักการต่อการยกระดับสถานะความสัมพันธ์ระหว่างกันเท่านั้น  โดยอียูได้ตั้งคณะทำงานร่วมกับประเทศที่เกี่ยวข้องของอาเซียน เพื่อจัดการกับประเด็นน้ำมันปาล์มต่อไป


ขณะที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานอาเซียนปัจจุบัน เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า แม้จะไม่ได้มีการรับรองสถานะอย่างที่มีการคาดการณ์ไว้ แต่อาเซียนและอียูก็เห็นด้วยในหลักการ ต่อการยกสถานะความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ จึงไม่ถือเป็นปัญหา และไม่มีใครติดใจอะไร 

“ไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องมาแตกหักกัน เพราะในทางปฏิบัติ อาเซียน-อียู ถือเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องรอเวลา เพื่อจะนำไปสู่การประกาศอย่างเป็นทางการต่อไปเท่านั้น   หากเป็นไปได้ ก็อาจจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ที่ไทยจะเป็นประธานการประชุมผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา” นายดอน กล่าว


นายดอน กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้พูดคุยหารือเกี่ยวกับความพร้อมของทั้ง 2 ฝ่ายที่จะเพิ่มความร่วมมือระหว่างกัน ให้มีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น รวมถึงแตกแขนงความร่วมมือออกไป เพื่อให้เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นด้วย โดยหนึ่งในประเด็นที่มีการหารือกันคือ การเพิ่มพูนความร่วมมือเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างอียูกับอาเซียน  นอกเหนือจากความร่วมมือในเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม

นายดอน กล่าวด้วยว่า   ในการหารือได้มีการพูดถึงสถานการณ์ในรัฐยะไข่ของเมียนมา โดยเปิดโอกาสให้เมียนมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่ อาเซียนชี้แจงว่า เมียนมาได้พยายามดำเนินการอย่างไร และอาเซียนได้ทำอะไรบ้าง รวมถึง ร่วมมือกับประเทศที่ 3  มีผลคืบหน้าพอสมควร  จึงหวังว่าทุกฝ่ายจะให้โอกาสเมียนมา   ซึ่งฝ่ายอียูมีความพอใจกับภาพที่สะท้อนออกไปให้เห็น จึงไม่มีการตั้งคำถาม แสดงความขัดข้องใจ หรือติดใจอะไรเป็นพิเศษ  และไม่ได้คิดว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นปัญหาเรื้อรังชนิดที่ไม่มีทางออก  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แถลงการณ์ของที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-อียู ครั้งที่ 22  ได้แสดงความชื่นชมยินดีต่อแนวคิดหลัก ในการเป็นประธานอาเซียนของไทย ปีนี้ ภายใต้หัวข้อ “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” ด้วย และรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-อียู ยังแสดงความพอใจต่อการหารือของเจ้าหน้าที่ระดับสูง เกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างอาเซียน-อียู ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น เมื่อปี 2560  พร้อมกับแสดงความคาดหวัง และตั้งตารอคอยที่จะจัดการหารือครั้งต่อไปอีกด้วย     ..- สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ เจ็บ 21

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บ 21 คน คาดคนขับหลับใน เบื้องต้นยังไม่พบตัว