พาณิชย์เผยส่งออกปี 61 พลาดเป้าโตร้อยละ 6.7

นนทบุรี 21 ม.ค. – พาณิชย์เผยส่งออกปี 61 พลาดเป้าโตร้อยละ 6.7 เหตุจากสงครามการค้าสหรัฐและจีน ย้ำเป้าส่งออกปี 62 คาดการณ์ไว้ตามเดิม ชี้หากสงครามจบส่งออกจะเห็นโตไตรมาส 2 


น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนธันวาคม 2561  พบว่า มีมูลค่า 19,381 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบร้อยละ 1.72 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2  หลังจากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาติดลบร้อยละ 0.95 เนื่องจากการส่งออกกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ 2 รายการสำคัญของไทย ทั้งคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบติดลบถึงร้อยละ 16.9  และแผงวงจรไฟฟ้าติดลบร้อยละ 4.5 จากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้กัน ส่งผลกระทบให้ชะลอตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก หากดูเป็นรายตลาดเดือนธันวาคมตลาดหลักติดลบร้อยละ 0.5 จากการส่งออกไปตลาดสหภาพยุโรป (อียู) ที่ลดลง และที่สำคัญตลาดจีนติดลบถึงร้อยละ 7.3  แต่ยังมีตลาดอาเซียนและตลาดเอเชียใต้ที่ยังไปได้ดี ส่งผลให้ปี 2561 ไทยมีมูลค่าการส่งออกรวม 252,486 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ขยายตัวร้อยละ 6.7  

ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ทำให้การส่งออกปี 2561 ไม่เป็นไปตามเป้าหมายร้อยละ 8 นั้น มาจากผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งทางการค้าของ 2 ประเทศขนาดใหญ่ทั้งสหรัฐและจีนที่เริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง เพราะสินค้าไทยอยู่ในห่วงโซ่การผลิตของจีนจำนวนมาก และเป็นสินค้าส่งออกอันดับต้น ๆ ของไทย รวมทั้งหลายตลาดส่งออกเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของจีน เช่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ และไต้หวัน นอกจากนี้ กลุ่มสินค้าเกษตรขยายตัวระดับต่ำ ทั้งน้ำตาลและยางพารา เนื่องจากปัจจัยด้านราคา 


อย่างไรก็ตาม ในปี 2562 กระทรวงพาณิชย์ยังคงต้องเร่งหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพเข้ามาทดแทน และพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้น โดยสนับสนุนการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ เพื่อยกระดับสินค้าไทย เพื่อผลักดันการส่งออกไปสู่เป้าหมายที่ร้อยละ 8 หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออกรายเดือนละ 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะเดินหน้าเร่งเจรจาความตกลงอาเซียนบวก 6 หรืออาเซ็บให้จบโดยเร็ว เพื่อลดความเสียเปรียบทางภาษีกับประเทศอื่น แต่ยอมรับว่าหากสงครามสหรัฐและจีนจบลงด้วยดีและทิศทางความผันผวนค่าเงินบาทไม่แข็งค่าไปมาก โอกาสที่การส่งออกปี 2562 น่าจะเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งการประเมินตัวเลขการส่งออกแบบรายตลาดทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศอยู่ระหว่างทบทวนภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ ในส่วนการนำเข้าในช่วงเดือนธันวาคม 2561 มูลค่า 18,316 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบร้อยละ 8.15 เนื่องจากการนำเข้าสินค้าทุน โดยเฉพาะเครื่องบินและสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปที่ลดลง แต่การนำเข้ารวมทั้งปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 12.5 คิดเป็นมูลค่า 249,231 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ไทยยังเกินดุลการค้า 3,254 ล้านดอลลาร์สหรัฐ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้