พาณิชย์ชี้ส่งออกไทยรอพุ่งหลังโควิด-19

นนทบุรี  24 พ.ค. – พาณิชย์ชี้ส่งออกไทยรอพุ่งหลังโควิด-19 ประสานหน่วยงานเร่งทะลวงปัญหาขนส่งโลจิสติกส์ต่างประเทศ


นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวถึงการส่งออกของไทยเดือนเมษายน 2563 ที่มีมูลค่า 18,948 ล้านเหรียญสหรัฐ และขยายตัวร้อยละ 2.12 แม้จะยังอยู่ในช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 และสงครามน้ำมัน ว่าหากเทียบกับประเทศต่าง ๆ ในโลก ถือว่าการส่งออกไทยสามารถพยุงตัวได้เป็นอย่างดี โดยสินค้าเกษตรอาหารและข้าวกลับมาเป็นดาวเด่นอีกครั้ง เพราะขยายตัวร้อยละ 4 และ 23.1 ตามลำดับ ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม หากหักทองคำออกก็จะมีสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ไปได้ดี โดยขณะนี้มีคำสั่งซื้อสินค้าไทยหลายประเภทรออยู่ที่ต่างประเทศ แต่ติดปัญหาด้านการขนส่งระหว่างประเทศ ที่หากแก้ไขได้ก็จะช่วยผลักดันให้การส่งออกไทยในช่วงต่อ ๆ ไปดีขึ้น

นางสาวพิมพ์ชนก  กล่าวถึงปัญหาการขนส่งและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ มาเป็นระยะ นับแต่มีการล็อกดาวน์และปิดพรมแดนประเทศต่าง ๆ รวมทั้งไทย โดยปัญหาด้านการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการส่งออกสินค้าเกษตร เช่น ผลไม้ ทุกภาคส่วนได้หารือกับประเทศเพื่อนบ้านและจัดทำพิธีสารในการเปิดด่านให้สินค้าจากไทยผ่านลาวและเวียดนามไปยังจีนเพิ่มขึ้น โดยด่านทางบกที่เปิดเพิ่มมี 2 ด่าน คือ ด่านตงซิง เมืองฝางเฉิงก่าง และด่านรถไฟผิงเสียง ทั้งนี้ ด่านรถไฟผิงเสียงมีปัญหาเล็กน้อยในเรื่องเที่ยวรถน้อยไม่เพียงพอกับความต้องการ และด่านโหยวอี้กวนที่ผิงเสียงติดกับเวียดนามเริ่มลดความแออัดลงแล้ว


อย่างไรก็ตาม การขนส่งทางบกไปจีนยังมีปัญหาอื่นที่ต้องแก้ไข ทั้งมาตรการกำกับดูแลพนักงานขับรถบรรทุกที่ประเทศต่าง ๆ อาจมีความเข้มงวดต่างกัน การเปิดปิดพรมแดนที่แต่ละประเทศอาจมีเวลาหรือมาตรการไม่เหมือนกัน และปัญหาทางปฏิบัติอื่น ทางภาคเอกชนไทยจึงได้ขอให้ภาครัฐช่วยผลักดันจีน ให้เปิดท่าเรือกวนเหล่ยในแม่น้ำโขงเพิ่มเติมอีกจุดหนึ่ง เพื่อนำเข้าผลไม้จากไทย แต่ยังมีอุปสรรคด้านความพร้อมของจุดตรวจมาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและจะหารือกับจีนร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศต่อไป นอกจากการหารือ 2 ฝ่ายแล้ว ทางจังหวัดเชียงรายได้เสนอทางเลือกเพิ่มเติม คือ ใช้เส้นทางเรือผ่านลำน้ำโขง จากเชียงแสน จ.เชียงราย – ท่าเรือกวนเหล่ย ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่น้ำล้านช้าง – แม่น้ำโขง โดยล่าสุดไทยได้มีหนังสือถึงกงสุลใหญ่ของจีนประจำเชียงใหม่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาผ่อนผันเปิดเส้นทางต่อไป

สำหรับการขนส่งทางอากาศ ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องประเทศต่าง ๆ ระงับหรือชะลอการบินเข้าออกประเทศ ทำให้มีเที่ยวบินที่ขนส่งสินค้าลดลงอย่างมาก ส่งผลให้ราคาค่าขนส่งคาร์โก (cargo) เพิ่มขึ้น อีกทั้งนักบินยังต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการกักตัวจึงทำให้เที่ยวบินไม่สะดวกราบรื่น ซึ่งในจุดนี้ หน่วยงานราชการได้ซักซ้อมความเข้าใจระหว่างกันเรียบร้อยแล้วว่า นักบินขนส่งสินค้าสามารถบินเข้าออกได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน หากมีกำหนดตารางเวลาการบินเข้าออกที่ชัดเจน มีเอกสารรับรองการตรวจสุขภาพ และพักอยู่ในสถานที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น สำหรับเรื่องการขนส่งสินค้าทางเครื่องบินเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้หลายสายการบิน รวมถึงการบินไทยได้ปรับเครื่องบินโดยสารมาเป็นการขนส่งสินค้าแล้ว แต่มีเส้นทางบินค่อนข้างจำกัดไปยังเมืองที่เป็น hub หรือศูนย์กลางการขนส่ง ซึ่งการกระจายสินค้าไปยังเมืองอื่น ๆ ต่อ อาจจะต้องใช้รถยนต์ จึงทำให้มีต้นทุนค่าขนส่งเพิ่ม แต่ก็ถือว่าช่วยผ่อนคลายปัญหาไปได้บ้าง 

ผอ.สนค. กล่าวถึงปัญหาการขนส่งทางเรือ/ทะเล ว่า ปัญหาช่วงต้นเป็นเรื่องของการดูแลความปลอดเชื้อของตู้ขนส่งคอนเทนเนอร์และเรือเดินสมุทรที่ขนส่งสินค้า เพื่อไม่ให้สินค้าได้รับเชื้อ แต่ขณะนี้ปัญหาตรงนี้คลี่คลายไปมากแล้ว โดยจุดที่ยังต้องหาทางบรรเทาต่อไปคือ ประเด็นที่ปริมาณการค้าระหว่างประเทศลดลงไปอย่างมาก จากอุปสงค์ที่ลดลงในทุกประเทศจากโควิดและการล็อคดาวน์ ทำให้การขนส่งทางเรือ/ทะเลมีปริมาณลดลง ค่าระวางจึงแพงขึ้นเพราะตู้ว่าง ซึ่งผู้ประกอบการขนส่งทางทะเลได้แก้ไขเบื้องต้นโดยการลดจำนวนตู้และเที่ยวเรือลง ทำให้สามารถส่งออกไปได้น้อย ซึ่งหากอุปสงค์กลับมามีมากขึ้น ก็น่าจะทำให้เที่ยวเรือและจำนวนตู้กลับมาในระดับใกล้ปกติต่อไป นอกจากนี้  ยังมีปัญหาเอกสารและการปล่อยของล่าช้าในประเทศคู่ค้า เนื่องจากนโยบายล็อกดาวน์และให้ทำงานที่บ้านมากขึ้น ทำให้บางประเทศมีเจ้าหน้าที่ดูแลด่านต่าง ๆ ลดลง จึงใช้เวลามากขึ้นในการเคลียร์สินค้า รวมทั้งการรับส่งเอกสารทางการเงินที่เกี่ยวเนื่องกับการค้าระหว่างประเทศ ก็พบปัญหาความล่าช้าเช่นเดียวกัน 


นางสาวพิมพ์ชนก  กล่าวว่า สินค้าไทยยังมีอุปสงค์อยู่มากในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มที่ตอบรับโจทย์ new normal ที่การใช้ชีวิตและการทำงานของคนจะเปลี่ยนไปหลังโควิด-19 เช่น อาหารสำเร็จรูปจะขายดียิ่งขึ้น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สินค้าไอที และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องต่าง ๆ จะมารองรับการทำงานที่บ้าน ซึ่งประเทศไทยควรเร่งทำตลาดช่วงนี้ให้ลูกค้าติดใจมากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นเร็ว ๆ นี้ เช่น การจัดงานชิมผลไม้ไทยในจีน ฮ่องกง และเกาหลี ที่ทูตพาณิชย์ในพื้นที่จัด พบว่าคนสนใจมาร่วมงานและสั่งซื้ออย่างมาก นอกจากนี้ การสั่งซื้อของออนไลน์ก็เป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่กระทรวงพาณิชย์กำลังผลักดันทุกด้าน โดยเป็นนโยบายหลักในช่วงถัดไปของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงมั่นใจว่าหากปัญหาด้านการขนส่งต่าง ๆ คลี่คลายก็จะมีส่วนช่วยให้การส่งออกไทยกลับมาฟื้นตัวได้อย่างเร็วและมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2563 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้