รัฐสภา 17 ม.ค.-สนช.รับหลักการร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก ปรับปรุงให้ทันสมัย รองรับใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มช่องทางชำระค่าปรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (17 ม.ค.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงหลักการและเหตุผลว่า เนื่องจากจำนวนอุบัติเหตุเกิดมากขึ้น โดยสาเหตุ คือ การไม่เคารพระเบีบบวินัย และไม่กลัวโทษ จึงจำเป็นต้องสร้างและควบคุมวินัยจราจรให้มีความสากล และสอดรับกับเทคโนโลยี อีกทั้งกฎหมายเก่าใช้บังคับนานแล้ว ไม่ทันสมัย ไม่มีประสิทธิภาพในปัจจุบัน จึงต้องแก้ไขให้สอดคล้อง มีความสากล เช่นเดียวกับนานาประเทศ
โดยในร่างกฎหมายนี้มีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกรมการขนส่งทางบกประสานจัดทำข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ บันทึกประวัติของผู้ขับขี่และการทำผิดกฎหมาย รวมทั้งข้อมูลทะเบียนรถ เพื่อให้มีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมดูแล และบันทึกคะแนนความประพฤติ หากผู้ใดถูกตัดจนหมด ต้องถูกพักใบขับขี่ 90 วัน และเข้าอบรมวินัยจราจรกับกรมการขนส่งทางบก และรองรับการใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต รวมถึงปรับแก้ไขระบบบันทึกความประพฤติให้สอดรับเทคโนโลยี ให้เสมอภาค มีประสิทธิภาพ และยกเลิกอำนาจพนักงานจราจรเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ เป็นให้อำนาจพนักงานจราจร ตรวจบัตรอนุญาตแทน เพื่อแก้ปัญหาที่ต้องใช้ใบขับขี่คู่กับการขับรถและสอดรับใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังให้ชำระค่าปรับได้ทั้งทางไปรษณีย์ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคาร และสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน
อย่างไรก็ตาม สตช.ได้เปิดเวทีรับฟังความเห็น ตามมาตรา 77 ซึ่งผลการรับฟังต่างเห็นด้วย ขณะเดียวกัน สตช.พร้อมทำกฎหมายรอง กำหนดระเบียบอีก 8 ฉบับให้เสร็จภายใน 90 วันนับแต่วันที่ร่างนี้ใช้บังคับ
ขณะที่ สมาชิก สนช.ต่างอภิปรายแสดงความเห็นด้วยที่จะมีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้เป็นสากลและเพิ่มบทลงโทษ แต่ตั้งข้อสังเกตว่าควรเพิ่มช่องทางให้ผู้ที่ถูกใบสั่ง สามารถชี้แจงหรือปฏิเสธข้อกล่าวหาได้ เนื่องจากบางครั้งเป็นเหตุสุดวิสัย และเห็นควรให้ผู้ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์เข้าอบรมความรู้รื่องการขับขี่รถ และเพิ่มช่องทางชำระค่าปรับทางอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้สมาชิก สนช.ยังตั้งข้อสังเกตว่าร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนว่าหากมีการบังคับใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์แล้วยังต้องพกใบขับขี่เดิมอีกหรือไม่ จึงเสนอให้มีการแก้ไขในชั้นกรรมาธิการให้ชัดเจน
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ลงมติด้วยคะแนนเอกฉันท์ งดออกเสียง 2 เสียง เห็นชอบร่างกฎหมายจราจรทางบกในวาระแรก.-สำนักข่าวไทย

