กทม. 14 ม.ค.-กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมง โดยการตรวจวัดเวลา 15.00 น. พบว่าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 34 จุด
สำหรับรายงานจากกรมควบคุมมลพิษ ตรวจวัดครั้งล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา มีพื้นที่ที่คุณภาพอากาศเริ่มกระทบต่อสุขภาพ เฉพาะริมถนน 19 พื้นที่ และพื้นที่ทั่วไปอีก 15 พื้นที่ ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ โดย 3 อันดับแรกที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มากที่สุด คือ ริมถนนพระราม 3-เจริญกรุง เขตบางคอแหลม 80 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือ ริมถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร 80 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และอันดับ 3 คือริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง 78 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ชั้นอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งริมถนนพญาไท ริมถนนพระราม 4 ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตพญาไท รวมถึงเขตดินแดง
ส่วนพื้นที่ปริมณฑลรอบกรุงเทพฯ ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน โดย 3 อันดับแรก วัดเมื่อ 15.00 น. คือ อำเภอเมืองนครปฐม 86 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองมาคือ ตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ 76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร 69 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ยังมีอำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ก็มีค่าฝุ่นละอองในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
นอกจากพื้นที่กรุงเทพฯ หลายจุดที่น่าเป็นห่วงแล้ว สถานการณ์ในปริมณฑลถือว่าค่อนข้างหนัก โดยภาพจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย ที่สำรวจบนถนนสายหนึ่งในปทุมธานี พบว่ามีปริมาณหมอกควันฝุ่นละอองจำนวนมาก จนทัศนวิสัยต่ำลงไม่กี่ร้อยเมตร โดยศาสตราจารย์แพทย์หญิงอรพรรณ โพชนุกูล ผอ.ศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืด และโรคระบบหายใจ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เตือนให้ประชาชนรับมือด้วยการใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะผู้ป่วยทางเดินหายใจในผู้สูงอายุต้องระวังเป็นพิเศษ คาดว่าหลังจากนี้อาจมีคนไข้โรคระบบทางเดินหายใจเพิ่ม 2-3 เท่าจากปกติ
ที่สมุทรปราการ ภาพมุมสูงแสดงให้เห็นปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ เหตุเพราะมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก รวมถึงการจราจรที่คับคั่ง แม้ส่วนหนึ่งของฝุ่นละอองในพื้นที่จะถูกพัดออกทะเลไป แต่ภาพรวมสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในจังหวัดพบว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยแพทย์ได้แจ้งเตือนให้ใส่หน้ากากเพื่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย