“ภูมิธรรม” มอบ 5 นโยบายขับเคลื่อนกรุงเทพฯ

ก.มหาดไทย 15 ก.ค.-“ภูมิธรรม” มอบ 5 นโยบายขับเคลื่อนกรุงเทพมหานครสู่เมืองแห่งความสุขที่ยั่งยืน พร้อมย้ำแนวทาง “เร่งด่วน-จริงจัง-ตรงจุด-ยั่งยืน” เพื่อแก้ไขปัญหาชาวกรุงอย่างมีประสิทธิภาพ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานมอบนโยบายสำคัญเร่งด่วนให้กับกรุงเทพมหานคร ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (หลังเก่า) อาคารสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พญ.วันทนี วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม


นายภูมิธรรม กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนนโยบายจำนวนมากในพื้นที่เมืองหลวงแห่งนี้ในฐานะเมืองศูนย์กลางของประเทศ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการบริหารจัดการเมืองที่ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการจราจรและขนส่งมวลชน ปัญหาสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ไปจนถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตชีวิตของประชาชนในระดับพื้นที่

กระทรวงมหาดไทยในฐานะกำกับดูแลการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นของกรุงเทพมหานคร จึงขอให้กรุงเทพมหานครนำนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลมาร่วมดำเนินการขับเคลื่อนและพัฒนากรุงเทพมหานครให้เกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นรูปธรรม ได้แก่


1.การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่เป็นบ่อเกิดของอาชญากรรม ความรุนแรง และความไม่สงบสุขในชุมชน และเป็นปัญหาที่เชื่อมโยงทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน ไปจนถึงเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งกรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงที่เป็นเป้าหมายสำคัญของการแพร่ระบาดของยาเสพติด จึงต้องส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชนท้องถิ่นในการสร้างเครือข่ายป้องกันยาเสพติดในระดับเขตและชุมชนให้มีความเข้มแข็ง พร้อมทั้ง Re X-ray ชุมชนและพื้นที่เสี่ยงทุกแห่ง ทำให้เป็นพื้นที่สีขาวปลอดยาเสพติด และเร่งรัดการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดอย่างมีมนุษยธรรมและยั่งยืน มีระบบการติดตามอย่างต่อเนื่อง

2.”การจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิทธิพล ปัญหาการกระทำผิดกฎหมายและปัญหาผู้มีอิทธิพล” ทั้งการลักลอบเปิดสถานบริการที่ผิดกฎหมาย บ่อนการพนัน การค้ามนุษย์ แรงงานต่างด้าว การเก็บส่วย การจัดการพื้นที่ค้าขาย ด้วยการจัดระเบียบพื้นที่สาธารณะและแหล่งเศรษฐกิจ พื้นที่สถานบันเทิง ตลาดนัด ตลอดจนสถานีขนส่ง ให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้มีอิทธิพลเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ และสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ค้าและประชาชนทั่วไป โดยใช้ “สุขุมวิทโมเดล” เป็นพื้นที่ตัวอย่างที่จะทำให้กรุงเทพมทานครเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสำหรับทุกคน มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และปลอดจากสิ่งผิดกฎหมายในทุกรูปแบบ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจและใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข

3.”การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน” ด้วยความเข้าใจในบริบทของพื้นที่ และความแตกต่างของประชาชนกลุ่มต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็กยากไร้ และผู้มีรายได้น้อย ให้สามารถเข้าถึงสวัสดิการพื้นฐานอย่างทั่วถึง ส่งเสริมการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและอาชีพผ่านการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน เศรษฐกิจสร้างสรรค์ รวมทั้งขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล ต่อยอด OTOP สู่สินค้าเชิงคุณภาพ ที่ไม่ใช่แค่มีจำนวน แต่ต้องมีคุณค่า ด้วยการยกระดับสู่ THAIWorks and Beyond และส่งเสริมแพลตฟอร์มการค้าสมัยใหม่ การฝึกอาชีพ และการเข้าถึงแหล่งทุนของผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน


4.การบริการภาครัฐ รวดเร็ว ตรงใจ หนึ่งในหัวใจของการบริหารราชการแผ่นดินในยุคปัจจุบัน คือ การเปลี่ยนผ่านจากระบบราชการแบบเดิมไปสู่การให้บริการที่รวดเร็ว ทันสมัย และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ด้วยการปฏิรูประบบราชการในระดับเมืองให้เป็นภาครัฐแบบใหม่ ที่เน้นการให้บริการเชิงรุกเข้าถึงง่าย และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ได้อย่างแท้จริง และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการให้บริการ เพื่อประชาชนได้รับความสะดวกในการรับบริการ

5.เรื่องร้องทุกข์ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ด้วยความ “เร่งด่วน – จริงจัง – ตรงจุด – ยั่งยืน” เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชนในพื้นที่ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง เช่น แพลตฟอร์ม Traffy Fondue (ทราฟฟี่ฟองดูว์) ซึ่งเป็นระบบที่มีการใช้งานแล้วในหลายพื้นที่ สามารถบูรณาการข้อมูลเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนกับกระทรวงมหาดไทยได้ต่อไป

นอกจากนี้ ขอให้กรุงเทพมหานครให้การสนับสนุนมาตรการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสายที่รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการ เพื่อเป็นการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะและการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าโดยสารร่วมในเขตกรุงเทพมหานครเพื่อรองรับนโยบาย “ค่าโดยสารราคาเดียวตลอดสาย” ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน

“กระทรวงมหาดไทยจะคอยประสานและสนับสนุนการทำงานกับกรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิดเพื่อให้กรุงเทพมหานครสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ปัญหาของประชาชนได้รับการแก้ไข และขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐมีผลสัมฤทธิ์และเป็นรปธรรม ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากที่สุด” นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ ได้กล่าวถึงการขับ “สุขุมวิทโมเดล” ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ตัวอย่างที่จะทำให้เห็นถึงความปลอดภัยสำหรับทุกคน มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และปลอดจากสิ่งผิดกฎหมายในทุกรูปแบบ ด้วยการบูรณาการของ 8 หน่วยงาน โดยหากกรุงเทพมหานครต้องการขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทยขอให้ได้แจ้งเป็นรายกรณี

ด้านนายชัชชาติ ได้หารือแนวทางการขับเคลื่อนงานของกรุงเทพมหานครเพื่อขอรับการสนับสนุนกำกับดูแลจากกระทรวงมหาดไทย 7 ด้าน ได้แก่ 1.งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.สายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3.การเปลี่ยนไฟฟ้าแสงสว่างเป็นแอลอีดี 4.โครงการก่อสร้างและปรับปรุงท่อประปา 5.สุขุมวิทโมเดล 6.ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และ 7.เสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อปรับภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง ภาษียาสูบ และค่าธรรมเนียมบำรุงที่พักในโรงแรม.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย