วอชิงตัน 15 มี.ค.- นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศแจ้งว่า สหรัฐได้ขับเอกอัครราชทูตแอฟริกาใต้ประจำสหรัฐแล้ว เนื่องจากเกลียดชังสหรัฐและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้านทำเนียบประธานาธิบดีแอฟริกาใต้แถลงว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ นายรูบิโอโพสต์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เอกอัครรราชทูตแอฟริกาใต้ประจำสหรัฐไม่เป็นที่ต้อนรับในประเทศที่ยิ่งใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป รัฐบาลไม่มีสิ่งใดที่จะหารือด้วย จึงถือว่าเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา (PERSONA NON GRATA) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้นำบทความจากไบรต์บาร์ต (Breitbart) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ฝ่ายขวามาโพสต์ซ้ำหรือรีโพสต์ เนื้อหาในบทความอ้างถ้อยคำที่นายเอบราฮิม ราซูล เอกอัครราชทูตแอฟริกาใต้ประจำสหรัฐกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า นายทรัมป์กำลังเป็นแกนนำขบวนการที่เชื่อว่าคนขาวเหนือกว่าคนสีผิวอื่น ด้านทำเนียบประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีได้รับทราบเรื่องการขับนายราซูลที่น่าเสียใจ ขอให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายคงไว้ซึ่งมารยาททางการทูตในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ และว่าแอฟริกาใต้ยังคงยึดมั่นต่อการสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับสหรัฐ นายราซูล วัย 62 ปี เคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตแอฟริกาใต้ประจำสหรัฐช่วงปี 2553-2558 และเพิ่งกลับดำรงตำแหน่งนี้อีกครั้งเมื่อวันที่ 13 มกราคมปีนี้ในขณะที่นายโจ ไบเดน ยังดำรงประธานาธิบดีสหรัฐ เซมาฟอร์ (Semafor) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวในสหรัฐรายงานเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า นายราซูลถูกปฏิเสธการพบหารือตามปกติกับเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐและสมาชิกคนสำคัญของพรรครีพับลิกันนับตั้งแต่นายทรัมป์รับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม รายงานอ้างนักการทูตชาวแอฟริกาใต้ว่า เหตุผลน่าจะมาจากการที่นายราซูลมีทัศนะสนับสนุนปาเลสไตน์และวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอล.-814.-สำนักข่าวไทย