ทำเนียบฯ 29 ธ.ค.-“พล.อ.ฉัตรชัย” ระบุผลงานบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลดีเยี่ยม ลดพื้นที่น้ำท่วม-น้ำแล้ง เพิ่มปริมาณน้ำมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา 4 เท่า ลดงบฯ กว่า 2.6 หมื่นล้าน
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแผนการบริหารจัดการน้ำในปี 2562 ว่า เรื่องดังกล่าวรัฐบาลได้พยายามดำเนินการและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยก่อนหน้าที่รัฐบาลนี้จะเข้ามา ประเทศไทยไม่เคยมีแผนบริหารจัดการน้ำของประเทศ แต่ในรัฐบาลนี้ได้ริเริ่มคิดแผนบริหารจัดการน้ำขึ้นครั้งแรกของประเทศ มีระยะเวลา 20 ปี เพื่อให้เกี่ยวโยงกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ขณะเดียวกันได้ทำร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ ที่ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว และอยู่ระหว่างการประกาศใช้กฎหมาย ขณะเดียวกัน มีการตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ขึ้นมาทำหน้าที่ดูแลการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งทั้ง 3 เสาหลักนี้ จะสามารถเดินหน้าขับเคลื่อนการทำงานบริหารจัดการน้ำได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
“ปัจจุบัน รัฐบาลสามารถเพิ่มปริมาณน้ำได้ถึง 4 เท่าของรัฐบาลที่ผ่านมา กล่าวคือ เราทำ 4 ปี เท่ากับ 12 ปีย้อนหลัง และยังพบว่าสามารถลดพื้นที่น้ำท่วมได้ โดยในปี 2551-2553 มีพื้นที่น้ำท่วม 5.15 ล้านไร่ ปี 2554-2556 มีน้ำท่วมเฉลี่ย 5.66 ล้านไร่ และในช่วงรัฐบาลชุดนี้ เหลือ 1.67 ล้านไร่ ส่วนเรื่องภัยแล้ง ตั้งแต่ปี 2551-2554 มีหมู่บ้านที่ประสบปัญหาภัยแล้ง 22,813 หมู่บ้าน ปี 2555-2557 มี 20,915 หมู่บ้าน และในรัฐบาลนี้ ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน เหลือ 3,030 หมู่บ้าน” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ปัญหาภัยแล้งและพื้นที่น้ำท่วมที่ลดลง สะท้อนผ่านงบประมาณที่เราต้องชดเชย โดยในช่วงแรกชดเชยไป 50,281 ล้านบาท ช่วงที่ 2 เป็นช่วงที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก ชดเชยไป 89,755 ล้านบาท และในช่วงรัฐบาลชุดนี้ เหลือ 18,594 ล้านบาท จะเห็นว่าตัวเลขงบประมาณที่ต้องชดเชยนั้นลดลง ทำให้สามารถนำงบประมาณไปใช้บริหารจัดการประเทศในด้านอื่น ๆ ได้ ซึ่ง 4 ปี รัฐสามารถประหยัดงบประมาณของประเทศได้มากถึง 26,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลางที่เสนอของบประมาณ และได้ย้ำทุกหน่วยงานว่าทุกโครงการจะต้องไม่มีการล็อกสเปก หรือเขียนโครงการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทใด อย่างไรก็ตาม โครงการบริหารจัดการน้ำหลายโครงการเพิ่งเริ่มต้น โดยในช่วงต้น เราดำเนินการไปหลายโครงการแต่เป็นโครงการขนาดเล็ก ส่วนโครงการขนาดใหญ่จะดำเนินการไม่ได้มาก มีประมาณกว่า 10 โครงการ เพราะต้องสอดรับกับงบประมาณ รวมถึงจะต้องผ่านกระบวนการการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ เพื่อรับฟังความคิดเห็น ซึ่งจะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 2 ปี
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้ระบุว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งว่าให้นำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ยังไม่ได้จัดทำ มาดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว 3 โครงการ และในปี 2562 จะดำเนินการอีก 5 โครงการ.-สำนักข่าวไทย