อนุทิน ย้ำเลือกภูมิใจไทยนโยบายทำได้จริง

กรุงเทพฯ 28 ธ.ค. – “อนุทิน ชาญวีรกูล” ย้ำ เลือกพรรคภูมิใจไทยนโยบายทำได้จริง ไม่ขายฝัน มั่นใจยกระดับอสม.รับเงินเดือน 2,500-10,000 บาท  – ชาวนาได้เงิน 70% – พักหนี้ กยศ .ไม่กระทบงบประมาณชาติและภาษีประชาชน  ยัน “แกร็บคาร์-แท็กซี่”  ไร้ขัดแย้ง เพิ่มช่องทางทำกิน  


นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนโยบายที่จะผลักดันให้ประชาชนขับแกร็บคาร์ (Grab) ถูกกฎหมาย ว่า มั่นใจว่าคนขับแกร็บคาร์จะไม่เกิดความขัดแย้งระยะยาวกับผู้ขับรถแท็กซี่สาธารณะที่ถูกกฎหมายอยู่แล้ว เพราะทั้ง 2 อาชีพมีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ แกร็บคาร์คือทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบาย แต่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ส่วนแท็กซี่สาธารณะ เป็นการบริการหลักเทียบจำนวนกันไม่ได้ ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ทับซ้อนกัน คนที่ทำให้เกิดความขัดแย้งคือผู้สร้างปัญหาให้เกิดขึ้น

“การใช้บริการแกร็บคาร์ เรานั่งอยู่กับที่แล้วมีรถมารับถึงที่ เทียบกับเราใช้บริการแท็กซี่ต้องเดินออกไปหน้าปากซอย ก็ลูกค้าคนละกลุ่มแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าทำความเข้าใจจริง ๆ ไม่มีอะไรที่ทับซ้อนกันเลย อีกทั้งในทางกลับกันเราต้องการสร้างโอกาสให้ประชาชนที่ขับแกร็บคาร์มีหนทางทำมาหากินมากขึ้น แก้ปัญหาปากท้องด้วยตัวเองได้” นายอนุทิน กล่าว


หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า แนวคิดดังกล่าวสามารถทำได้จริง ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ก็สามารถผลักดันเรื่องนี้ได้ด้วยการเสนอกฎหมายแก้ไข และยินดีหากรัฐบาลปัจจุบันจะหยิบยกไปดำเนินการ ไม่ได้หวังว่าคะแนนเสียงจะไปตกอยู่กับพรรคการเมืองใด

นายอนุทิน กล่าวว่า  พรรคภูมิใจไทยยังมีนโยบายที่จะยกสถานะ อสม.เทียบเท่าผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีเงินเดือนตามขั้นบันได ตั้งแต่ 2,500-10,00บาท   ระบบแบ่งปันผลกำไร ข้าว 70%:15%:15%  โดยชาวนาได้เงิน 70%  ในทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นทางไปปลายทางคือการขายข้าวสาร  และการแก้ปัญหาหนี้ กยศ. คือการพักหนี้ 5 ปี  ชำระตามความสามารถ และปลดภาระผู้ค้ำประกัน 

“เราไม่ต้องเพิ่มงบประมาณ หรือ ไปเก็บภาษีเพิ่ม แต่จะมาจากบริหารจัดการงบในกระทรวงหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมนำเทคโนโลยี เข้ามาบริหารจัดการ ส่งผลทำให้เงินเหลือ และนำงบประมาณมาใช้ในนโยบายต่าง ๆ ดังนั้นรับรองหากเลือกพรรคภูมิใจไทยทุกอย่างที่นำเสนอไปทำได้จริง ไม่ขายฝัน และไม่ทำลายระบบงบประมาณของประเทศแน่นอน ” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว