กกพ.ไฟเขียว “จีพีเอสซี” ควบรวม” โกลว์”

กรุงเทพฯ 26 ธ.ค. – กกพ.ลงมติเห็นชอบในหลักการ “จีพีเอสซี”ควบรวม “โกลว์” ย้ำเงื่อนไขต้องขาย “โกลว์ เอสพีพี 1” ก่อนควบรวม พ่วงมาตรการ กำหนดเงื่อนไขแนบท้ายสัญญา สร้างความมั่นใจ เป็นธรรม และโปร่งใสให้กลุ่มลูกค้าเดิม


นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.มีมติเห็นชอบในการหลักการให้บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือจีพีเอสซี ควบรวมกิจการกับบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) โดยมีเงื่อนไขกำหนดให้โกลว์ขายกิจการบริษัท โกลว์ เอสพีพี 1 จำกัด ให้เสร็จก่อน หรือเวลาเดียวกันกับการควบรวม พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนไขในการให้ความคุ้มครองกลุ่มลูกค้าผู้ซื้อไฟฟ้าจากกลุ่มธุรกิจโกลว์ทั้งหมด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และมีธรรมาภิบาล

“กกพ.มีมติเห็นชอบในหลักการให้จีพีเอสซีควบรวมกับโกลว์ แล้ว หลังจากโกลว์ยื่นเรื่องเพื่อขออนุญาตควบรวมกิจการเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง จากการที่ก่อนหน้านี้ กกพ.ไม่อนุมัติและยกคำอุทธรณ์ โดยเห็นว่าข้อเสนอยังคงมีผลต่อการลดการแข่งขันในบางพื้นที่ ภายหลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างทางธุรกรรมและยื่นเรื่องขออนุญาตเข้ามาอีกรอบหนึ่ง ซึ่งความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาลดการแข่งขันตามมติและข้อห่วงใยเดิมของ กกพ.” นางสาวนฤภัทร กล่าว


ในวันนี้ กกพ.มีมติพิจารณาเห็นชอบ ประกอบด้วย เห็นชอบให้จีพีเอสซีกระทำการรวมกิจการกับโกลว์  เนื่องจากเป็นไปตามระเบียบ กกพ. ว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อไม่ให้มีการรวมกิจการที่มีลักษณะก่อให้เกิดการผูกขาด ลดการแข่งขัน หรือ จำกัดการแข่งขันในการให้บริการพลังงาน และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดเงื่อนไขบังคับก่อนการรวมกิจการให้แก่โกลว์ 1 ข้อ คือ ให้โกลว์ขายกิจการของบริษัทโกลว์ เอสพีพี 1 จำกัด ให้เสร็จก่อนหรือเวลาเดียวกันกับการดำเนินการรวมกิจการกับจีพีเอสซี 

พร้อมกันนี้ยังเห็นชอบให้กำหนดเงื่อนไขบังคับหลังการรวมกิจการ โดยกำหนดเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมท้ายใบอนุญาตประกอบกิจการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ผู้รับใบอนุญาตโกลว์ 11 ข้อ และผู้รับใบอนุญาตบริษัทในเครือ ได้แก่ 1. บริษัท โกลว์ เอสพีพี 11 จำกัด 2. บริษัท โกลว์ เอสพีพี 2 จำกัด (จำนวน 2 ฉบับ) และ 3. บริษัท โกลว์ เอสพีพี 3 จำกัด รายละ 10 ข้อ รวม 4 ราย 5 ฉบับ ทั้งนี้ เงื่อนไขดังกล่าวจะมีการทบทวนหรือประเมินผลโดยคณะทำงานที่แต่งตั้งโดย กกพ. เพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย

สำหรับเงื่อนไขแนบท้ายสัญญา  11 ข้อ ประกอบด้วย 


1. การอำนวยความสะดวกกรณีลูกค้าเดิมเปลี่ยนผู้ให้บริการไฟฟ้า – ลูกค้าผู้ใช้ไฟฟ้ารายเดิมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมผาแดงประสงค์จะซื้อไฟฟ้าจากแหล่งอื่น หรือผู้ให้บริการรายอื่นเพิ่มเติม ผู้รับใบอนุญาตจะรับผิดชอบดำเนินการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าจากแหล่งอื่น หรือผู้ให้บริการรายอื่นให้ รวมถึงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในการดำเนินการดังกล่าวด้วย 

2. การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดอื่น ๆ-หากผู้รับใบอนุญาตเข้าข่ายต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่นในการรวมกิจการ ผู้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนอย่างเคร่งครัด 

3. การป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนทางธุรกิจ – ผู้รับใบอนุญาตต้องประกอบกิจการโดยใช้หลักธรรมาภิบาล และห้ามแต่งตั้งกรรมการบริหารผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลหรือมีอำนาจควบคุมนโยบายและบริหารจัดการกิจการ ซึ่งเป็นกรรมการผู้บริหาร พนักงาน หรือที่ปรึกษาของบริษัทหรือองค์กรที่ดำเนินธุรกิจหรือกิจการอุตสาหกรรมปิโตรเคมี 

4. การให้บริการอย่างมีมาตรฐานและไม่เลือกปฏิบัติ – ผู้รับใบอนุญาตต้องให้บริการด้านพลังงานและอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ แก่ลูกค้าซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าทุกราย โดยไม่เลือกปฏิบัติ และดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนด เงื่อนไข และมาตรฐานของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือสัญญาให้บริการไฟฟ้าที่มีผลใช้บังคับอยู่อย่างเคร่งครัด เว้นแต่ข้อกำหนดใดในสัญญามีมาตรฐานต่ำกว่าที่ประกาศ กกพ. เรื่อง มาตราของสัญญาให้บริการผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ พ.ศ. 2561 กำหนดไว้ให้ดำเนินตามข้อกำหนดในบทเฉพาะกาลในประกาศดังกล่าวอย่างเคร่งครัด 

5. การพิจารณาให้สิทธิ์ในการพิจารณาต่อสัญญาหรือขยายเวลาสัญญาแก่ลูกค้ารายเดิมก่อน 3 ปี ผู้รับใบอนุญาตต้องพิจารณาให้สิทธิ์ลูกค้าผู้ใช้ไฟฟ้ารายเดิมที่มีความประสงค์จะต่ออายุหรือขยายระยะเวลาของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือสัญญาให้บริการไฟฟ้าเป็นลำดับแรกบนฐานที่ว่าผู้ใดเสนอขอมาก่อนมีสิทธิ์ก่อน โดยให้มีการตกลงสรุปผลของการพิจารณาต่ออายุสัญญาฉบับเดิมสิ้นสุดลงไม่น้อยกว่า 3 ปี เพื่อให้ลูกค้าผู้ใช้ไฟฟ้ามีทางเลือกเพิ่มขึ้น และไม่ปฏิเสธการให้ต่ออายุสัญญาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร รวมถึงไม่การกระทำหรือพฤติกรรมลักษณะที่เป็นการกีดกัน จำกัดทางเลือกในการให้บริการหรือรับบริการ หรือกำหนดเงื่อนไขในลักษณะที่เป็นการบังคับโดยตรงหรือโดยอ้อมกับลูกค้าผู้ใช้ไฟฟ้าโดยเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ ผู้รับใบอนุญาตต้องยึดถือและปฏิบัติตามประกาศ กกพ. เรื่อง มาตราของสัญญาให้บริการผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมอย่างเคร่งครัด 

6. โครงสร้างอัตราค่าบริการมีความเป็นธรรม – กรณีมีการขยายระยะเวลาของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า หรือจัดทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่การกำหนดโครงสร้างอัตราการให้บริการพลังงานในสัญญาต้องเป็นไปตามราคาตลาด โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างไม่เป็นธรรมและไม่มีเหตุผลอันสมควร 

7. การผลิตและจัดหาไฟฟ้าได้อย่างเพียงพอมีมาตรฐาน – ผู้รับใบอนุญาตต้องไม่ระงับ ลด หรือจำกัดการบริการและการจำหน่ายพลังงานให้ลูกค้าผู้ใช้ไฟฟ้าหรือผู้รับบริการโดยไม่มีเหตุอันสมควร ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตไม่สามารถจัดหาไฟฟ้ามาจำหน่ายได้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ผู้รับใบอนุญาตจะต้องจัดสรรปริมาณการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าทุกราย โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงมาตรฐาน ความปลอดภัยและข้อจำกัดของระบบไฟฟ้าด้วย 

8. การรักษาความลับข้อมูลทางธุรกิจให้กับลูกค้า – ผู้รับใบอนุญาตต้องรักษาความลับของข้อมูลโดยไม่นำข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้าซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าหรือผู้รับบริการไปใช้เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขันทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรมไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม รวมถึงไม่เปิดเผยรายละเอียดของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของลูกค้าแต่ละรายให้แก่ผู้อื่นโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากคู่สัญญาก่อน 

9. การสนับสนุนธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ – ผู้รับใบอนุญาตต้องยึดถือและปฏิบัติตามคู่มือการปฏิบัติหน้าที่กรรมการของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) ในกรณีที่มีส่วนได้เสียหรือความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่ได้นำเสนอต่อ กกพ. ไว้อย่างเคร่งครัด ตามหนังสือบริษัท โกลบอล ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ที่ 10000000/342/61 ลงวันที่ 18 ธันวาคม 2561 

10. การบังคับใช้กฎหมายในกรณีที่มีการร้องเรียนหรือฝ่าฝืนเงื่อนไขสัญญา – ในกรณีที่มีเรื่องร้องเรียนจากลูกค้าซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าหรือผู้รับบริการหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้รับใบอนุญาตมีการกระทำหรือพฤติกรรมที่มีลักษณะเป็นการกีดกันการแข่งขันและส่งผลกระทบต่อการผูกขาด ลด หรือจำกัดการแข่งขัน รวมถึงเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในการให้บริการในกิจการพลังงาน คณะกรรมการอาจมีคำสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตกระทำการ หรืองดเว้นกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างเพื่อแก้ไขหรือไม่ให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาด หรือลด หรือ จำกัดการแข่งขัน และ 

11. ในกรณีที่การกระทำ พฤติกรรม หรือเหตุที่ทำให้เกิดการผูกขาด ลด หรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการในกิจการพลังงานตามข้อ 10 สิ้นสุดลงแล้ว ผู้รับใบอนุญาตอาจต้องร้องขอให้คณะกรรมการระงับ ยกเว้น หรือปรับปรุงมาตรการเฉพาะใหม่ก็ได้ พร้อมแสดงเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ

อย่างไรก็ตาม กกพ.เห็นว่าการรวมกิจการนี้จะก่อให้เกิดเสถียรภาพและความมั่นคงในการให้บริการแก่ลูกค้าอุตสาหกรรม ก่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพและบริการของผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น เสริมสร้างประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในกระบวนการผลิตไฟฟ้าสูงสุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย