fbpx

สศค.คงคาดการณ์ GDP ไทยปี 61 โตร้อยละ 4.5

กระทรวงการคลัง 26 ธ.ค. – สศค.คงคาดการณ์ GDP ไทยปี 61 โตร้อยละ 4.5 คาดมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเริ่มส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้า


นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า แม้ว่าหลายสำนักจะมีการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจว่าปลายปีแผ่วลง จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แต่ยังยืนยันว่า สศค. จะยังไม่มีการปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจปี 2561 ใหม่ เพราะดอกเบี้ยเป็นเพียงปัจจัยหนึ่ง ยังคงต้องคอยติดตามปัจจัยอื่นทั้งภายในและภายนอกประเทศที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ พร้อมคงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2561 ที่ร้อยละ 4.5 เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว ร้อยละ 3.9 โดยยังต้องคอยประเมินแรงขับเคลื่อนหลักที่มาจากการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งด้านการบริโภคและการลงทุนที่มีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการจ้างงานที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และรายได้ครัวเรือนในภาคเกษตรกรรมที่เริ่มขยายตัวดีขึ้นตามปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้นรวมทั้งตัวเลขการส่งออกและท่องเที่ยวที่คาดว่าจะดีขึ้นตามลำดับ

ด้านมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังช่วยสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน คาดว่าจะเริ่มเห็นผลต่อเศรษฐกิจในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2562 


สำหรับรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนพฤศจิกายนปี 2561 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนพฤศจิกายน 2561 ได้รับแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ภายในประเทศเป็นสำคัญ โดยการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่องสะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ขยายตัวได้ดีที่ระดับร้อยละ 12.8 ต่อปี ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในเดือนพฤศจิกายน 2561 ขยายตัวร้อยละ 9.6 ต่อปี ขยายตัวสูงสุดในรอบ 4 เดือน และการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่องที่ร้อยละ 26.9 ต่อปี ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 โดยยอดจำหน่ายรถกระบะขนาด 1 ตัน ขยายตัวร้อยละ 27.5 ต่อปี

ด้านการส่งออกสินค้ากลับมาส่งสัญญาณชะลอตัว โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าในเดือนพฤศจิกายน 2561 มีมูลค่า 21.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาหดตัวที่ร้อยละ -0.95 ต่อปี อย่างไรก็ดี การส่งออกในตลาดสำคัญ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และ CLMV ยังคงขยายตัวในระดับสูง โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 7 เดือน ทั้งนี้ สินค้าที่สนับสนุนการส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เช่น เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และทูน่ากระป๋อง เป็นต้น 

ด้านการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน 2561 มีจำนวน 3.18 ล้านคน กลับมาขยายตัวร้อยละ 4.5 ต่อปี จากการขยายตัวต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ที่ขยายตัวในระดับสูงร้อยละ 44.6 ต่อปี ซึ่งนับเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 41 เดือน นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวประเทศอื่นยังคงขยายตัวได้ดี ได้แก่ นักท่องเที่ยวอินเดียและฮ่องกง เป็นต้น ทั้งนี้ ส่งผลทำให้เดือนพฤศจิกายน 2561 มีรายได้จากการท่องเที่ยวต่างประเทศ มูลค่า 167,418 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 5.18 ต่อปี 


ส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี และเสถียรภาพภายนอกอยู่ในระดับที่มั่นคง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนพฤศจิกายน 2561 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ต่อปี ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า ตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกที่ขยายตัวในอัตราชะลอลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.7 ต่อปี 

สำหรับรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค ประจำเดือนธันวาคม 2561 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) อยู่ในเกณฑ์ที่ดีทุกภูมิภาค โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เป็นสำคัญ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ